ฉายาตำนานราชินีเผ่าเอลฟ์ผู้ทรงอำนาจที่สุด(Greatest of elven women)
ตำแหน่งเจ้าหญิงเอลฟ์ชาวโนลดอร์(Queen of Elf)
เผ่าพันธ์ เอลฟ์(Elf)
ปรากฏตำนานเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ (The.Lord.of.the.Rings)
พระบิดาฟินาร์ฟิน เจ้าชายแห่งโนลดอร์(Finarfin-Prince of the Noldor)
พระมารดาเจ้าหญิงเออาร์เวนแห่งอัลควาลอนเด(Earwen)
พี่น้อง ฟินร็อด โอโรเดร็ธ อังก์รอด และอายก์นอร์
สวามีล็อดเคเลบอร์น(Lord Celeborn)
เกิดใน ทวีปอามัน-ยุคแห่งพฤกษา(Valinor during the Years of the Trees)
สวรรคต เป็นภูติอมตะ
กาลาเดรียล (Galadriel) เป็นตัวละครในจินตนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เป็นเจ้าหญิงเอลฟ์ชาวโนลดอร์ (ลูกครึ่งเทเลริ) ที่เดินทางกลับมามิดเดิ้ลเอิร์ธนับตั้งแต่ยุคที่หนึ่ง ชื่อจริงของนางคือ แนร์เวน (Nerwen) อันเป็นชื่อมารดาตั้ง หมายถึง 'นางผู้เสมอชาย' (เนื่องจากนางมีร่างกายสูงใหญ่และมีพลังอำนาจมาก) ชื่อบิดาตั้งคือ อาร์ทานิส (Artanis) หมายถึง 'นางผู้สูงศักดิ์' ส่วนชื่อ 'กาลาเดรียล' เป็นคำในภาษาซินดารินของชื่อ อลาทาเรียล ซึ่งมีความหมายว่า 'นางผู้สวมมาลัยเศียรอันเรืองรอง' เป็นชื่อที่เคเลบอร์นตั้งให้แก่นาง เนื่องมาจากนางมีเส้นผมเป็นสีทองเหลือบเงินเปล่งปลั่งงดงาม
กาลาเดรียล เป็นธิดาองค์สุดท้องของฟินาร์ฟิน เจ้าชายโนลดอร์ซึ่งต่อมาได้เป็นจอมกษัตริย์แห่งโนลดอร์บนทวีปอามัน กับเจ้าหญิงเออาร์เวนแห่งอัลควาลอนเด เอลฟ์ชาวเทเลริ นางเกิดบนทวีปอามันตั้งแต่ยุคแห่งพฤกษา มีพี่ชายร่วมบิดามารดาเดียวกันคือ ฟินร็อด โอโรเดร็ธ อังก์รอด และอายก์นอร์
ประวัติความเป็นมาของกาลาเดรียลมีหลากหลายตำนาน ซึ่งคริสโตเฟอร์ โทลคีน ได้รวบรวมต้นฉบับต่างๆ ของเจ.อาร์.อาร์.โทลคีน ไว้ในหนังสือ Unfinished Tales สำหรับประวัติที่ปรากฏอยู่ใน ซิลมาริลลิออน ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรกๆ ที่โทลคีนประพันธ์ไว้ กาลาเดรียลเดินทางมามิดเดิ้ลเอิร์ธพร้อมกับกองทัพโนลดอร์ที่มาไล่ล่ามอร์กอธเพื่อชิงซิลมาริลคืน แต่วัตถุประสงค์ส่วนตัวของนางก็เพื่อมาแสวงหาดินแดนเสรีสำหรับปกครองตัวเองเท่านั้น
หลังจากสิ้นสุดยุคที่หนึ่ง เมื่อมอร์กอธถูกกำราบลง และชาวโนลดอร์ได้รับอภัยโทษจากเหล่าวาลาร์ให้สามารถกลับไปยังแผ่นดินอามัน ได้ กาลาเดรียลตัดสินใจที่จะอยู่บนมิดเดิ้ลเอิร์ธต่อไป เวลานั้นราชนิกูลโนลดอร์ที่เดินทางออกจากอามันมามิดเดิ้ลเอิร์ธสิ้นพระชนม์ ไปเกือบหมด นางจึงเป็นเอลฟ์เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ที่เคยเห็นทวิพฤกษามาด้วยตาของตัวเอง (กิล-กาลัดจอมกษัตริย์ถือกำเนิดบนมิดเดิ้ลเอิร์ธ)
ตลอดช่วงยุคที่สอง กาลาเดรียลมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งอาณาจักรเอลฟ์แห่งใหม่บนมิดเดิ้ลเอิร์ธ คืออาณาจักรเอเรกิออน และยังมีส่วนในการก่อตั้งสภาขาว เพื่อต่อต้านอำนาจของเซารอน สมุนเอกของมอร์กอธ กาลาเดรียลเป็นหนึ่งในผู้ถือแหวนทั้งสามของเอลฟ์ โดยได้ครอบครองแหวนเนนย่า แหวนแห่งน้ำ จึงมีอำนาจคุ้มกันอาณาเขตไพรแห่งลอธลอริเอนให้บริสุทธิ์จากความชั่วร้ายที่ทวีขึ้นในยุคนั้น
เมื่อลอริเอนสิ้นผู้ปกครอง หลังจากเหตุวิบัติในปี 1981 ของยุคที่สาม กาลาเดรียลและเคเลบอร์นได้เดินทางไปที่นั่น และได้รับยกย่องให้เป็นผู้พิทักษ์อาณาจักรลอริเอน เนื่องจากทั้งสองปฏิเสธที่จะขึ้นเป็นราชาและราชินี ในระหว่างสงครามแหวน ช่วงปลายยุคที่สาม กาลาเดรียลถูกทดสอบจิตใจด้วยเอกธำมรงค์ ขณะที่โฟรโดเดิน ทางผ่านลอธลอริเอนระหว่างการนำแหวนไปทำลาย แต่นางสามารถชนะใจตัวเอง ไม่ตกเป็นทาสของแหวน และยินดีจะเป็นเพียง 'กาลาเดรียล' ผู้หวนคืนสู่แดนอมตะแห่งเหล่าเทพ นางได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้กับคณะเดินทาง (เหล่าพันธมิตรแห่งแหวน) รวมทั้งเลมบัส ซึ่งเป็นขนมปังสำหรับการเดินทางที่เอลฟ์จะไม่มอบให้แก่เผ่าพันธุ์อื่นใดเลย คนแคระอย่างกิมลีตะลึงในความสวย สง่างาม และได้เอ่ยปากขอเส้นเกศาของกาลาเดรียลไว้เป็นที่ระลึก กาลาเดรียลมอบเกศาให้แก่กิมลีถึง 3 เส้น ขณะที่เฟอานอร์เคย ขอเส้นเกศาของนาง (ซึ่งร่ำลือกันว่างามประหนึ่งบรรจุแสงพิสุทธิ์ของพฤกษาเงินและพฤกษาทองเอา ไว้รวมกัน) แต่นางไม่ยอมมอบให้เลยแม้แต่เส้นเดียว
หลังจากสิ้นสุดสงครามแหวน กาลาเดรียลเดินทางกลับแผ่นดินอมตะพร้อมกับ แกนดัล์ฟ เอลรอนด์ เคียร์ดัน และผู้ถือแหวนทั้งสองคือ บิลโบ และ โฟรโด แบ๊กกิ้นส์
.........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น