30 สิงหาคม 2556

Legend_Nefertiti_เนเฟอร์เนฟรูอาเทน.เนเฟอร์ติติ

Myth Nefertiti Queen of perfection.
ฉายาราชินีผู้เลอโฉมผู้ถูกสรรค์สร้างจากพระเจ้า
ตำแหน่งราชินีของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่4แห่งอียิปต์ (Queen of Egypt)  
-เจ้าหญิงจากไมตานนี(Mitanni)อาณาจักรโบราณทางเหนือเมโสโปเตเมีย
สัญชาติ อียิปต์(Egypt) 
พระบิดา เอย์
พระมารดา เทย์  
พระสวามีฟาโรห์อาเมนโฮเทป ที่ 4 แห่งอียิปต์ 
เกิดเมื่อปี1370ก่อนคริสตกาล-ที่เมืองมัลกาตา
สวรรคต ปี1330ก่อนคริสตกาล

          เนเฟอร์ติติ(์์Nefertiti)  พระนามของพระนาง หมายถึง ผู้สมบูรณ์แบบ กล่าวกันว่าเนเฟอร์ติติอาจเคยขึ้นครองบัลลังก์อียิปต์เป็นช่วงเวลาสั้นๆหลัง จากพระสวามีสิ้นพระชนม์ และก่อนที่ฟาโรห์ตุตันคามุนจะเถลิงศิริราชสมบัติแต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิชาการ ชื่อของพระนางอาจแปลได้โดยสังเขปว่า โฉมงามผู้มาสู่ และยังพ้องกับคำเรียกเครื่องประดับชนิดหนึ่งที่เป็นลูกปัดทองคำรูปยาวรี ดังที่เราเห็นรูปปั้นของเธอสวมใส่อยู่เสมอ ลูกปัดชนิดนี้เรียกว่า ลูกปัด"เนเฟอร์"เนเฟอร์ติติโด่งดังจากรูปปั้นท่อนบนที่ตอนนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์แห่งชาติเยอรมนีในนครเบอร์ลินรูปปั้นท่อนบนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากเป็นตัวอย่างของความเข้าใจ อย่างถ่องแท้ของชาวอียิปต์โบราณเกี่ยวสัดส่วนขององค์ประกอบบนใบหน้า
http://legendtheworld.blogspot.com/2013/08/cleopatra-queen-of-egypt5130-bc.html 





           พระนางถูกเรียกขานมากมายหลายชื่อ ที่วิหารคาร์นัก มีศิลาจารึกที่ขานพระนางว่าเป็น ผู้สืบทอด ที่สุดของผู้เป็นที่โปรดปราน ผู้มีสเน่ห์ ผู้แผ่ความสุข ชายาผู้อ่อนหวาน ผู้เป็นที่รัก ผู้ปลอบประโลมหัวใจขององค์ราชาในวัง ผู้มีถ้อยคำอ่อนโยน ชายาแห่งอียิปต์ตอนบนและอียิปต์ตอนล่าง ชายาของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่กษัตริย์ทรงรัก สตรีแห่งดินแดนทั้งสอง เนเฟอร์ติติ


            ที่มาของพระนางเชื่อว่าเกิดที่เมืองมัลกาตา สถานที่ซึ่งเนเฟอร์ติติใช้ชีวิตในวัยเยาว์เป็นพระราชวังที่งดงามที่สุดใน อียิปต์โบราณ ที่ประทับของฟาโรห์ ท่ามกลางสนมนางใน 500 คน ฮาเรมอันกว้างใหญ่ของ อเมนโฮเทป ที่ 3 หนึ่งในฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ของอียิปต์ ราชินีไทยี จะคัดเลือกหญิงสาวในที่นี่มาเป็นราชินี และเนเฟอร์ติติ ก็อยู่ในนั้น และเธอ ได้รับเลือก ให้เป็นราชินี 
            มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวถึงที่มาเนเฟอร์ติติแท้จริงคือเจ้าหญิงทาดูคีปา ธิดาของกษัตริย์ทัชรัตตาแห่งมีทานนี ในม้วนคัมภีร์โบราณมีการกล่าวถึงชื่อนีเมรีธิน เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระนาง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ยังมีผู้เสนอแนวคิดว่าพระนางเป็นธิดา หรือพระญาติกับฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่สาม หรือไม่ก็เป็นชนชั้นสูงของชาวเธบ อีกทฤษฎีหนึ่งยกให้เนเฟอร์ติติเป็นธิดาของซีตามุน น้องสาวต่างมารดาของอาเมนโฮเทปที่สาม โดยมีพระราชินีเอียเรเป็นพระมารดาของนาง เอียเรเคยมีตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาท แต่ตำแหน่งดังกล่าวต้องสิ้นสุดลงเมื่ออาเมนโฮเทปที่สามขึ้นครองบัลลังก์


         ซีตามุนถูกเลี้ยงดูให้เป็นมเหสีของทีเย แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่าพระนางมีโอรสธิดากับผู้ใดหรือไม่ มีหลักฐานอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าทั้งซีตามุนและเนเฟอร์ติติต่างก็มีความ สัมพันธ์ทางสายเลือดกัน นั่นคือชื่อของทั้งคู่ต่างก็หมายความว่า "ผู้เลอโฉม" เนเฟอร์ติตินับถือเทพเพียงองค์เดียว นั่นก็คืออาตอน ทั้งนี้ อาเคนาเตน สวามีของพระนางอาจเป็นพระบิดา หรือไม่ก็พี่ชายต่างมารดาของฟาโรห์ตุตันคามุน ขึ้นอยู่กับว่าจะนับญาติแบบไหน
               วันที่เนเฟอร์ติติอภิเษกสมรสกับอาเมนโฮเทปที่สี่ และต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระชายาของพระองค์นั้นไม่อาจระบุได้แน่นอน อย่างไรก็ดี ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันหกคน ตามรายชื่อและปีเกิดต่อไปนี้ 
     เมรีตาเตน - เกิดในปีที่ 2 หลังจากที่อาเมนโฮเทปที่สี่ขึ้นครองราชย์ (1348 ปีก่อนคริสตกาล) 
    เมเคตาเตน - เกิดในปีที่ 3 (1347 ปีก่อนคริสตกาล)  
    อานเคเซนปาเตน, ผู้ที่ต่อมาเป็นชายาของ ฟาโรห์ตุตันคามุน - เกิดในปีที่ 4 (1346 ปีก่อนคริสตกาล)  
    เนเฟอร์เนเฟอรัวเตน ตาเชริต - เกิดในปีที่ 6 (1344 ปีก่อนคริสตกาล]) 
     เนเฟอร์เนเฟอร์รูเรNeferneferure-เกิดในปีที่ 9 (1341 ปีก่อนคริสตกาล)  
    เซเตเปนเร - เกิดในปีที่ 11 (1339 ปีก่อนคริสตกาล)

          ในปีที่สี่ของการครองราชย์ (1346 ปีก่อนคริสตกาล)อาเมนโฮเทปที่สี่ได้เริ่มสร้างศาสนสถานเพื่อบูชาเทพอาเตน และยังเชื่ออีกว่าปีเดียวกันนี้พระองค์ได้เริ่มก่อสร้างอาเคตาเตน เมืองหลวงแห่งใหม่ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อเมืองอามาร์นา ในปีที่ห้าของการครองราชย์ (1345 ปีก่อนคริสตกาล) อาเมนโฮเทปที่สี่ ได้เปลี่ยนพระนามของพระองค์อย่างเป็นทางการเป็นอาเคนาเตน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของศาสนสถานแห่งใหม่ คาดกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคมของปีนั้น 
     ในปีที่เจ็ดของการครองราชย์ (1343 ปีก่อนคริสตกาล) ได้มีการย้ายเมืองหลวงจากกรุงธีบ ไปยังอามาร์นา แม้ว่าจะยังมีการก่อสร้างต่อไปอีกถึงสองปี (จนกระทั่ง 1341 ปีก่อนคริสตกาล เมืองใหม่ถูกอุทิศให้กับศาสนาใหม่ของทั้งคู่ เชื่อกันว่ารูปปั้นครึ่งตัวอันโด่งดังของเนเฟอร์ติติถูกสร้างขึ้นในปีนี้เอง
     อักษรจารึกชิ้นหนึ่งระบุว่าราววันที่ 21 พฤศจิกายน ในปีที่ 12 ของการครองราชย์ (1338 ปีก่อนคริสตกาล) ได้มีการกล่าวถึงเมเคตาเตน พระธิดาเป็นครั้งสุดท้าย จึงเชื่อกันว่านางอาจจะสิ้นพระชนม์ไม่นานหลังจากนั้น รูปสลักนูนต่ำในสุสานของอาเคนาเตนในสุสานกษัตริย์แห่งอามาร์นามีรูปงานศพของนาง
......................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น