ตำแหน่ง โจรสลัด (PIRATE)
สัญชาติ ฝรั่งเศส (FRENCH)
ฐานที่มั่น นิวออลีน - อเมริกา (New Orleans)
เกิดเมื่อ ประมาณปี ค.ศ.1778
- อาจเป็นที่ฝรั่งเศสหรือโดมินิกัน (France - Saint Domingue)
บิดา ปิแอร์ ลาฟิต (Pierre Lafitte)
มารดา มาร์เกอริ (Marguerite Destei)
ช่วงปีที่เป็นโจรสลัด ศตวรรษที่19
เสียชีวิต ประมาณปี ค.ศ.1823
-สถานที่อาจเป็นที่เม็กซิโก,หลุยเซียน่า,เท็กซ้ส ยังคงไม่แน่นอน
แรมเซย์ ลาฟิต(Jean Lafitte) เค้าเป็นโจรสลัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในอเมริกาเหนือจากการที่เค้ากำจัดโจรสลัดอื่นเพื่อเป็นโตรสลัดเดียวที่กุมอำนาจในนานน้ำแถบนั้น ปล้นในเขตน่านน้ำอ่าวราทาเนียของหลุยเซียน่า ทั้งปล้น ฆ่า ค้าคน ค้าของเถื่อน เค้าทำหมดแต่แม้ว่าจะดูเลวร้ายไปบ้างในสายตาคนทั่วไปแต่สุดท้ายเค้าเลือกที่จะภักดีต่ออเมริกาในการแจ้งให้รัฐทราบถึงการโจมตีจากเรือรบสัญชาติอังกฏษทำให้เค้าได้รับการตอบแทนเป็นการอภัยโทษในเวลาต่อมา แต่ก้กลับไปเป็นโจรสลัดอีกจนสุดท้ายก็จบชีวิตอยู่กลางทะเล
ประวัติของลาฟิตช่วง 20ปีแรกของเค้าดลุมครือเป็นอันมากทั้งสถานที่เกิดที่เค้าอ้างว่าเค้าเกิดที่ บ็อกโดในประเทศฝรั่งเศษในปีค.ศ.1780แต่พี่ชายของเค้าปิแอร์(Pierre)กลับบอกว่าเค้าเกิดที่ Bayonne ในเซนต์ มาโลแต่แม่ของเค้ากลับบอกว่าเกิดใน อูดูน่าในสเปน แต่ดูเหมือนทั้งหมดล้วนขัดแย้งกันและไม่น่าจะจริง ในปัจจุบันบัญทึกสัญชาติอเมริกาปรากฏว่าเค้าเกิดในอูโดน่าประเทศสเปน(Orduna-Spain) หรือเวสท์เชสเตอร์ ในนิวยอร์ค( Westchester - New York) แต่ในส่วนบัญทึกสัญชาติฝรั่งเศสปรากฏว่าเค้าเกิดในพาลยาค(Pauillac)ประเทศฝรั่งเศสเคยแต่งงานกับเมรี(Marie LaGrange).แต่ภรรยาของเขาก็เสียชีวิตในการครอดบุตรในเวลาต่อมา
ช่วงชีวิตในวัยหนุ่มช่วงปี 1780 เค้าย้ายตามแม่และพี่ชายจาก เซนท์ โดมินิกัน(Saint Domingue)ซึ่งในตอนนั้นเป็นดินแดนปกครองของฝรั่งเศส ในปัจจุบันเป็นประเทศเฮติ มาที่ หลุยเซียน่า อีก 4ปีต่อมาแม่เค้าก็แต่งงานใหม่ ช่วงนั้น ลาฟิตยังคงใช้ชีวิตอยู่กับแม่และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสำรวจพื้นที่เรียบชายฝั่งและพื้นที่ชุ่มน้ำจนในที่สุดเค้าเป็นหนึ่งในคนหนึ่งที่มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ในเขตอ่าวเป็นอย่างดี
ไม่นานเค้าก็แยกตัวออกไปทำงานกับพี่ชายของเค้าในการค้าขายและขนส่งทางทะเล โดยอาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆที่ห่างไกลจากฐานทัพเรือสหรัฐมีประชากรประมาณ 1,000คนในชื่อ Barataria โดยทำงานเป็นไพเวเทีย(โจรสลัดถูกกฏหมาย) โดยลักลอบขนสินค้าที่ถูกขโมยมาของพวกโจรสลัด ในบริเวณพอร์ทโบมิ่งซึ่งเค้าให้การช่วยเหลือ กัปตันชาวอังกฤษ แอนดรู แจ็คสัน อย่างลับๆกิจการของพวกเค้าเป็นไปได้ด้วยดีและมีเรือขนสินค้าขนาดใหญ่หลายลำและมีเรือใบ2เสาจำนวนมาก
แต่ในวันที่ 18มิถุนายน 1812 เกิดสงครามระหว่างอังกฤษกับอเมริกาขึ้น พวกอเมริกามีกำลังเรือน้อยกว่าจึงออกกฏหมาย สามารถติดตั้งอาวุธบนเรือเอกชนได้ และสามารถโจมตีเรือของอังกฤษได้อย่างถูกกฏหมายแต่ต้องส่งทรัพย์สินให้รัฐบาลเพื่อใช้ในการสงคราม ทำให้การค้าของพี่น้องราฟิตซบเซาเป็นอันมากทำให้พวกเขารับซื้อและยึดทรัพย์สินที่ปล้นได้ไว้ซะเองทำให้รัฐบาลไม่พอใจและในเดือนตุลาคมรัฐบาลได้ออกหมายจับ ลาฟิตด้วยค่าหัว 500$ ภายใน2วันชื่อของลาฟิตก็รู้จักกันไปทั่วพี่ชายของเค้าถูกจับแต่ลาฟิตหนีไปได้สงครามระหว่างอเมริกากับอังกฤษดำเนินไปโดยมี ลาฟิตอยู่ระหว่างกลาง โดยฝ่ายอังกฤษต้องการให้เค้าช่วยเหลือในสงครามครั้งนี้โดยส่งกัปตัน นิโคลาส มายื่นข้อเสนอจากพระเจ้าจอร์จที่ 3 ว่าจะให้สัญชาติและเกาะ Landholdings ซึ่งอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษให้แก่ลาฟิต
เค้าใช้เวลาตัดสินใจหลายวัน โดยเลือกจะอยู่ข้างอเมริกาเพราะเห็นว่าอเมริกาน่าจะชนะในสงครามครั้งนี้ซึ่งในขณะนั้นพี่ชายของเค้าเองก็ยังถูกขังคุกอยู่และได้ร่วมมือกับกองทัพ ของกัปตัน แดเนียล แพตเตอร์สันโจมตีกองทัพเรืออังกฤษและได้ขออภัยโทษในปีต่อมาแต่ถึงกระนั้นเค้าก็ยังคงขนสินค้าผิดกฏหมายเลื่อยมาในแถบ คิวบา และโคลัมเบียจนถูกจับได้อีกหลายครั้งวาระสุดท้ายของเค้ายังคลุมเครือเช่นเดียวกับวันเกิดของเค้าบ้างก็ว่าตายเพราะเฮอริเคนในปี ค.ศ.1826 บ้างก็ว่าน่าจะถูกลูกน้องตัวเองสังหารหรือไม่ก็ตายจากมาเลเรียระบาด หรืออาจมีอายุถึงปี ค.ศ.1840 ในเซนต์หลุยส์แต่ในความเป็นจริงน่าจะตายจากการรบกับเรือรบของสเปน ในวันที่ 4กุมภาพันธ์ ค.ศ.1823โดยร่างของเค้าถูกฝังบริเวณอ่าว ฮอนดูรัส
..................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น