ฉายาตุตัน..ตาเมน หรือ.คิงตุต (King Tut)
- ทุตอังค์อาเทน องค์อวตารแห่งสุริยเทพอาเทน (Tutankhaten)
ตำแหน่ง ฟาโรห์อียิปต์พระองค์ที่ 12แห่งราชวงศ์ที่.18 (Pharaohs of Egypt)
ครองราชเพียง 9 ปี
- ระหว่าง 1333-1324 ปีก่อนคริสตกาล
สัญชาติ อียิปต์(Egypt)
พระบิดาฟาโรห์อัคเคนาเทน(Akhenaten-Amenhotep IV)
พระมารดา พระสนมคียา
พระมเหสี พระนางอันเคเซนามุน พระธิดาพระองค์ที่ 3 ในพระนางเนเฟอร์ติติ(Ankhesenamun)
โอรส/ธิดา บุตรสาว 2 คนเสียชีวิตหมด
เกิดเมื่อ 1341 ปีก่อนคริสตกาล
- เมืองอัคนาเตน ประเทศ อียิปต์(Egypt)
สวรรคต อายุ 18 ปี - 1323 ปีก่อนคริสตกาล
ฟาโรห์ ตุตันคาเมน (Tutankhamun) เป็นฟาโรห์ในราชวงค์ที่ 18 ของอียิปต์โบราณ ครองราชย์ระหว่าง 1325-1334 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อมีพระชนม์เพียง 9-10 ชันษา การบริหารบ้านเมืองทั้งหมดจึงตกอยู่กับวิซิเออร์ อัยย์ (Vizier Ay) ฟาโรห์ ตุตันคาเมนได้ครองราชย์ในรัชสมัยของพระองค์ช่วงสั้นๆ ราว 9 ปี ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน เป็นเพราะฟาโรห์ ตุตันคาเมน สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน วิซิเออร์ อัยย์จึงได้สร้างสุสานถวายแบบง่าย ๆราวสองร้อยปีต่อมา มีการสร้างสุสานของรามเสสที่ 6 ทับสุสานของ ฟาโรห์ ตุตันคาเมน ทั้ง ๆ ที่คนงานก็รู้แต่นึกว่าเป็นบุคคลธรรมดาจึงไม่ได้เสนอเบื้องบน จึงทำให้มัมมี่ของฟาโรห์ ตุตันคาเมน ปลอดภัย นับเป็นสุสานที่สมบูรณ์ที่สุด
ฟาโรห์ตุตันคาเมน (Tutankhamen) ทรงเป็นพระโอรสของฟาโรห์อัคเคนาตันกับพระสนมคียา พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ในปีที่4 นับแต่การสวรรคตของอัคเคนาตัน โดยทรงมีพระชนมายุเพียงสิบชันษาเท่านั้น เมื่อเจริญวัยขึ้นจึงทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงอนัคซูนามุน ธิดาของฟาโรห์อัคเคนาตันกับราชินีเนเฟอร์ตีติ ตามประเพณีในสมัยนั้น ในสมัยของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั้น อำนาจในราชสำนักตกอยู่ในมือของอัยย์ ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีและหัวหน้านักบวชแห่งจอมเทพอามอน กับนายพลโฮเรมเฮปผู้บัญชาการทหาร เนื่องจากในยุคอาณาจักรนี้ อียิปต์มีกองทหารประจำการเป็นทหารอาชีพ ซึ่งผิดกับในสมัยก่อนที่จะเป็นแรงงานที่เกณฑ์มาเฉพาะในยามศึก การมีกองทัพประจำการณ์ทำให้นายทหารกลายเป็นกลุ่มอำนาจกลุ่มที่3 นอกเหนือจากฟาโรห์และหัวหน้านักบวช
หลังการสวรรคตของพระองค์ ราชินีอนัคซูนามุนทรงส่งสาส์นไปยังกษัตริย์ฮิตไตท์ให้ทรงพระโอรส มาอภิเษกกับพระนางและเป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โดยพระนางแจ้งไปในสาสน์ว่า “พระนางทรงหวาดกลัวที่จะต้องอภิเษกกับข้ารับใช้ของพระนาง” กษัตริย์ฮิตไตท์ก็ทรงส่งพระโอรสเดินทางมาอียิปต์ แต่ทว่าทันทีที่ขบวนเสด็จมาถึงเขตแดนอียิปต์ ก็ถูกซุ่มโจมตีและสังหารจนหมดทุกคน ทำให้ทางฮิตไตท์โกรธมาก ความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรจึงตึงเครียดยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นอัยย์ซึ่งชรามากแล้วก็อภิเษกกับเจ้าหญิงอนัคซูนามุนและ ขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์แต่ครองราชย์ได้เพียงสามปีก็ประชวรสวรรคต และในที่สุดนายพลโฮเรมเฮปก็กลายเป็นฟาโรห์พระองค์ใหม่
ในปี 1922 ฮาเวิร์ด คาร์เตอร์ พร้อมคณะได้เป็นผู้สำรวจขุดค้นพบสุสานลับแห่งฟา โรห์ตุตันคาเมน และสิ่งที่ทำให้ทั่งโลกต้องตลึงนั่นคือ มหาสมบัติอันมหาศาลภายในสุสานที่บรรจุไว้จนอัดแ น่นห้องภายในสุสาน
สิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่าสมบัติใดๆ นั่นคือ มัมมี่พระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน ซึ่งบรรจุไว้ภายในตู้ทองคำถึง 4 ชั้น ก่อนจะเจอ โลงพระศพหิน ซึ่งบรรจุอยู่ในตู้ทองคำชั้นในสุด และภายในโลงพระศพหิน ยังบรรจุโลงพระศพคล้ายรูปร่างคนอยู่อีก 3 ชั้น ซึ่งปิดทองไว้อย่างวิจิตร เมื่อเปิดโลงพระศพทองคำชั้นที่ 3 ออกก็พบมัมมี่พระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน โดยพบว่ามีหน้ากากทอง จำลองแบบพระพักตร์ฟาโรห์ตุตันคาเมนครอบไว้อีกที
ก่อนที่จะถอดหน้ากากทองคำออกและเผยพระพักตร์ของ ยุวกษัตริย์ที่ไม่มีผู้ใดเคยพบเห็นมากว่าสามพัน ปี ในสภาพมัมมี่ที่เกือบสมบูรณ์แบบ พระศพพันผ้าตามกระบวนการทำมัมมี่หนา 4 ชั้น แต่ละชั้นยังฝังเครื่องรางไอยคุปต์เพื่อป้องกัน วิญญาณชั่วร้ายที่อาจมาทำลาย รวมทั้งเครื่องประดับอีกจำนวนมาก รวมกว่า 143 รายการ การเผยร่างกายมัมมีที่แท้จริงของตุตัน ตาเมน หรือ คิงตุต (King Tut) นั้น
นับเป็นครั้งแรกหลังค้นพบพระศพมัม มีในปี พ.ศ.2465 โดยโฮเวิร์ด คาร์เตอร์ นักสำรวจชาวอังกฤษ ซึ่งนับจาก นั้นกว่า 80 ปี มีเพียง 50 คนเท่านั้นที่มีโอกาสเห็นพระพักตร์จริงๆ ของฟาโรห์ หนุ่มที่สิ้นพระชมน์มานานกว่า 3,000 ปี
แต่ด้วยความต้องการแค่ขุมทรัพย์ คาร์เตอร์และทีมสำรวจจึงตัด แขนขาและหัวของมัมมีออกเป็น 18 ส่วน โดยใช้มีดและขดลวดที่อังความร้อนลอกหน้ากาก ทองออกจากใบหน้าของฟาโรห์ หน้ากาก ทองคำของตุตันคาเมน แสดงให้เห็นถึงยุคแห่งทองในสมัยที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพ แต่หน้ากากทองชิ้นนี้ยั่วยวนใจยิ่งนัก ทำให้ทีมสำรวจแรกลงทุนเลาะออกจากพระ พักตร์ของพระองค์
ร่างกายของฟาโรห์ได้รับการประกอบขึ้นใหม่ และส่งกลับไปยังโลงศพหินอันเดิมในอีก 1 ปีถัดมา (พ.ศ.2466) และเพิ่งจะได้รับการ เคลื่อนย้ายอีก 3 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เพื่อเอ็กซเรย์ตรวจสอบในประเด็นต่างๆ ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่เหล่านักโบราณคดีต้องการรู้เป็น อย่างยิ่งคือ “สาเหตุการสิ้นพระชนม์” ของฟาโรห์เจ้าของร่าง ที่จากโลกไปทั้งที่ ยังมีพระชนมายุเพียงแค่ 19 ชันษา รวมถึงคำร่ำลือ “คำสาปฟาโรห์” ที่ตามหลอกหลอน ผู้บุกรุกรวบกวนพระศพ
ด้วยระยะเวลาอันสั้นในการครองราชย์ทำให้กษัตริย์พระองค์น้อยทรงไม่มีภารกิจใดมากนัก ที่สำคัญหลังสิ้นพระชนม์ทรงถูกกษัตริย์องค์ต่อมาลบทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพระนามของตุตันคาเมนออกจากรายนามพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ทำให้ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใดรู้จักพระนามของพระองค์เลย
ในวันที่ 4 พ.ย. 1922“โฮเวิร์ด คาร์เตอร์” (Howard Carter) นักโบราณวิทยาชาวอังกฤษและ “ลอร์ด คาร์นาร์วอน” (Lord Carnarvon) ผู้สนับสนุนทางการเงิน เป็นคณะแรกที่ได้เข้าสู่สุสานของตุตันคาเมนในหุบผากษัตริย์ เมืองลักซอร์ โดยคาร์เตอร์ใช้เวลาถึง 10 ปี ในการขุดค้นสุสานและค้นพบห้องเก็บพระศพ โลงพระศพที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์
แม้ตุตันคาเมนจะไม่ใช่กษัตริย์องค์สำคัญ แต่สุสานของพระองค์มีเครื่องประกอบพิธีศพที่หาค่าไม่ได้เนื่องจากพระศพและสุสานที่สร้างขึ้นไม่ได้สลักชื่อว่าเป็นของกษัตริย์ จึงรอดพ้นเงื้อมมือโจรที่คอยปล้นและทำลายสุสานไปได้ และทำให้ทุกอย่างยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ทำให้การค้นพบในครั้งนี้นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในโลก
แต่สิ่งที่ร่ำลือกันมากกว่าสิ่งใดสำหรับสุสานฟาโรห์หนุ่มองค์นี้คือ คำสาป ที่นักบวชไอยคุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของตุตันคาเมน “มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์”
ข้ออความที่ขลังและเปี่ยมด้วยอาถรรพณ์นี้ ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป ลอร์ด คาเนวอนเจ้าของทุนในการขุดค้นสุสาน ก็เสียชีวิตขณะพักอยู่ที่โรงแรมในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ หลังจากถูก “ยุงกัด อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานว่าลอร์ดคาร์นาวอน มีสุขภาพย่ำแย่มานานแล้ว และคาดว่าเสียชีวิตด้วยไข้ป่าที่มาพร้อมกับยุงใน ลุ่มแม่น้ำไนล์ จึงไม่ใช่เรื่องลึกลับใดๆ ในเวลาเดียวกันที่บ้านของลอร์ด คาเนวอนที่ประเทศอังกฤษมีสุนัขอยู่หนึ่งตัวซึ่งลอร์ด คาเนวอนได้เลี้ยงไว้ สุนัขตัวนี้ได้ส่งเสียงเห่าหอนในตอนดึกเหมือนกับว่าได้รู้ว่าลอร์ด คาเนวอนเสียชีวิตลงแล้ว
หนึ่งปีผ่านไป คนงานในคณะสำรวจของคาร์เตอร์เสียชีวิตลง หลังจากนั้น 6 ปีได้มีการเปิดหลุมศพอีกครั้งแต่ในครั้งนี้ได้มีคนตายอีกถึง 12 คน นับจากนั้นแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรหากแต่เมื่อครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตันคาเมน ถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา
............................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น