01 เมษายน 2559

LEGEND Master Yoda โยดาปรมาจารย์แห่งเจไดทั้งปวง

Myth Yoda Master of Jedi 
http://legendtheworld.blogspot.com/2016/04/legend-master-yoda.html
ฉายามาสเตอร์โยดา(Master Yoda)
-  ปรมาจารย์เจไดอาวุโส (Jedi Grand Master of the Order)
ตำแหน่ง ปรมาจารย์เจไดระดับ 9
- อาจารย์เจได  
- นายพลใหญ่สาธารณรัฐ   สังกัด สภาเจได   
ปรากฏ มหาสงครามล้างจักรวาล(Movie Dvd Star Wars Universe)
สายพันธ์  ลึกลับและไม่เป็นที่รู้จัก (Species Unknown)  
เพศ ชาย สูง 66 ซม.  อายุสูงสุด 900 ปี
อาจารย์ โกลโม(Gormo) เผ่าพันธุ์ Hysalria สี่ตาสี่มือ ตัวเป็น งู  
กำเนิด ปีที่ 896 ก่อนยุทธการยาวิน- ดาวอานิยา  
เสียชีวิต  ปีที่ 4 หลังยุทธการยาวิน (ข่าวลวงพวกซิธ)  
อาวุธ กระบี่แสงโบราณ หรือ โปรโตเซเบอร์ (protosabers)  
ลักษณะพิเศษ ตัวเขียวเล็ก หูยาวแขนขาสั้น ว่องไว 

               คาคาน่า หรือที่เรียกกันในชื่อ อ.โยดา(YODA)ปรมาจารย์เจไดอาวุโส ปราชญ์ผู้รอบรู้เป็นที่เคารพนับถือของเจไดทั้งปวง...โยดา เป็นตัวละครในเรื่องแต่งชุดสตาร์วอร์สซึ่งปรากฏตัวในภาพยนตร์เกือบทุกภาคยกเว้น สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่ เช่นเดียวกับชื่อหลายๆ ชื่อในสตาร์ วอร์ส ชื่อ "โยดา" อาจจะมาจากภาษาโบราณ ในกรณีนี้เช่นภาษาสันสกฤต จากคำว่า "โยธา" หรือภาษาฮิบรู คำว่า yodea
http://legendtheworld.blogspot.com/2016/04/legend-master-yoda.html................

 





       โยดาเป็นหนึ่งในอาจารย์เจไดที่มีชื่อเสียงและทรงพลังที่สุดในกาแลกซี 

           เป็นหนึ่งในเจไดแห่งสาธารณรัฐกาแลกติกที่รอดชีวิตจากสงครามโคลนและการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ปฏิบัติหน้าที่เป็นปรมาจารย์เจไดในช่วงสงครามโคลน โยดาได้เป็นนายพลเจไดของกองทัพสาธาธารณรัฐกาแลกติกตั้งแต่ยุทธการจีโอโนซิสและ ยุทธการคาชี้ค แต่ถูกโคลนทรูปเปอร์ได้เล็งยิงตามคำสั่งที่ 66 แต่ก็รอดมาได้ด้วยการฆ่าพวกเขาและหนีไปร่วมสบทบกับโอบีวันกับเบล ออร์กานา และสามารถช่วยเหลือเหล่าเจไดจากคำสั่งที่ 66 ให้พวกเขาหลบหนีไป ต่อมาโยดา ได้เข้าไปปะทะกับดาร์ธ ซีเดียสที่คอรัสซังแต่ก็พ่ายแพ้กลับมา
      หลังจากนั้นจึงลี้ภัยไปหลบซ่อนที่เดโกบาห์และแล้วโยดาได้มีชีวิตตั้งแต่การก่อตั้งจักรวรรดิกาแลกติกและสงครามกลางเมืองกาแลกติก โยดาได้พบกับลุค สกายวอล์คเกอร์ ตามคำแนะนำของสปิริตโอบีวันในช่วงปีที่ 3หลังยุทธการยาวินและหลังยุทธการฮอธ และช่วยสอนลุคให้เป็นเจได ต่อมาในช่วงปีที่ 4หลังยุทธการยาวิน โยดาได้เสียชีวิตลงก่อนสงครามกลางเมืองกาแลกติกจะจบลงด้วยกบฏได้รับชัยชนะ โยดาได้รับการยอมรับว่าเป็นเจไดที่ควรค่าแก่การเคารพและทรงภูมิที่สุดตลอด กาลและไม่มีใครเทียบได้ในความสามารถด้านสัมผัสแห่งพลัง

ตำนานดาบไลท์เซเบอร์ (Light saber)

               กระบี่แสง ดาบเลเซอร์ หรือ ไลท์เซเบอร์ (Light saber) เป็นอาวุธในเนื้อเรื่องที่แต่งขึ้นและทรงอานุภาพของอัศวินเจไดในจักรวาล สตาร์ วอร์ส มีลักษณะเป็นดาบ (แต่ตามชื่อภาษาอังกฤษ เซเบอร์ แปลว่า กระบี่หรือดาบโค้ง แต่แทนที่จะมีใบเป็นโลหะอย่างทั่วไป ใบดาบของกระบี่แสงจะเป็นเลเซอร์พลังสูง ซึ่งสามารถทะลุทะลวงโลหะแข็งได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก กระบี่แสงมีบทบาทสำคัญมากใน สตาร์ วอร์ส ทุกภาค ทั้งในภาพยนตร์ เกม และนวนิยาย
             ตั้งแต่การก่อตัวของไทธอน เจไดหลังจากสงครามพลังในช่วง 25,000 ปีก่อนยุทธการยาวินได้มีการสร้างอาวุธทางพิธีกรรมขึ้นมาในนิกาย ต่อมาด้วยการผสมผสานของเทคโนโลยีจากต่างดาวและพิธีกรรมเจไดได้เรียนรู้ที่จะ ทำการ"แช่แข็ง"ลำแสงเลเซอร์ มันเป็นเทคโนโลยีที่ต่อมาจะนำเจไดสู่การออกแบบกระบี่แสง  ในช่วงการขัดแย้งดุยนวกวูน (Duinuogwuin Contention)
            เมื่อประมาณ 15,500 ปีก่อนยุทธการยาวิน การศึกษาของนิกายเจไดเริ่มนำไปสู่ความสำเร็จของเทคโนโนยีดังกล่าว พวกเขาได้สร้างการเน้นลำแสงพลังงานซึ่งเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งตามเส้นรอบลง กลับไปที่แหล่งกำเนิดของมัน เป็นการสร้างใบมีดพลังงานสูงครั้งแรก กระบี่แสงขั้นต้นเหล่านี้ไม่สเถียรอย่างมากและใช้พลังอย่างไม่มีประสิทธิภาพ พวกมันสามารถใช้ได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นก่อนที่จะมันจะร้อนเกินไป ด้วยข้อด้อยเหล่านี้กระบี่แสงในช่วงแรกจึงไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสิ่งของ ทางพิธีกรรมปัญหาเรื่องความเสถียรของแบบแรกๆ นั้นเริ่มถูกแก้ไขตลอดหลายปี ดังนั้นในช่วงร้อยปแห่งความมืดมน

         ในปีที่ 7,000 ก่อนยุทธการยาวินาวุธที่อุ้นอ้ายนั้นก็ต้องหลีกทางให้กับกระบี่แสงที่ดี กว่า แม้ว่าความเสถียรของพวกมัน อย่างไรก็ตามพลังที่ออกมานั้นคือสิ่งที่สำคัญ พวกมันยังคงต้องการสายพลังงานเพื่อการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สายพลังงานที่เชื่อมต่อกับใบมีดทำให้เจไดเคลื่อนที่ได้ลำบากและไม่สามารถทำ การขว้างดาบได้ อย่างไรก็ตามใบมีดแบบใหม่ทำให้พวกมันได้เปรียบกว่าในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว กับศัตรูที่สวมเกราะหนักกระบี่แสงแบบแรกยังไม่ถูกออกแบบจนถึงสงครามไฮเปอร์สเปซครั้งใหญ่ สายพลังงานที่สร้างข้อจำกัดและแพ็คพลังงานในแบบเก่านั้นถูกแทนที่ด้วยตัว จ่ายพลังงานภายใน
              เมื่อ 4,800 ปีก่อนยุทธการยาวิน ตัวนำพลังงานที่เพิ่งเริ่มใช้กันนั้นจะย้ายพลังงานที่ห้วนกลับจากการไหลของ ด้านลบกลับเข้าไปในเซลล์พลังงานภายใน ด้วยการดัดแปลงนี้เซลล์พลังงานจะขยายพลังเมื่อบ่วงพลังแตก มันคือการแก้ไขปัญหาแหล่งพลังงานในแบบแรกหลังจากการการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่กระบี่แสงกลายเป็นของหายากที่มีราคาสูงต่อนักสะสมบางคน ในช่วงจักรวรรดิกาแลกติกของพัลพาทีนกระบี่แสงบางเล่มตกไปอยู่ในตลาดมืดและถูกขายไปเป็นจำนวนมาก พวกมันปรากฏตัวอีกครั้งแค่ตอนที่นิกายเจไดใหม่เริ่มต้นขึ้น ต้องขอบคุณการสอนของลุค สกายวอล์คเกอร์และการสอนที่หายไปเมื่อครั้งการกวาดล้าง
           ++หลังจากที่พัลพาทีนพ่ายแพ้และเจไดรวมตัวกันอีกครั้ง ผู้ใช้พลังกลุ่มอื่นอย่างพวกรีบอร์นของดีซานน์และ ผู้รับใช้แรกนอสได้สร้างกระบี่แสงขึ้นมาเป็นจำนวนมากเพื่อติดอาวุธให้กับกอง ทัพของตนเอง นิกายเจไดใหม่ยังคงดำเนินวิถีทางเก่าด้วยการใช้การเชื่อมโยงกับพลังของพวก เขาในการสร้างกระบี่แสงของตนเอง
             ในปีที่ 137 ปีหลังยุทธการยาวิน อัศวินจักรวรรดิได้สร้างกระบี่แสงขึ้นมาเอง กระบี่แสงเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของอัศวินแต่ละคนของ จักรวรรดิ โดยสีของกระบี่แสงมาจากคริสตัลที่ใช้สร้างมัน เจไดจะสะสมคริสตัลไปหลายชนิดจากธรรมชาติ ในขณะที่ซิธใช้คริสตัลสังเคราะห์ที่มักมีสีแดงอยู่แล้ว หลังจากการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่คริสตัลสังเคราะห์ก็ถูกใช้โดยเจไดในบางครั้ง 
          ก่อนที่จะถึงยุทธการรูซานครั้งที่ 7 เจไดโบราณ ใช้ใบมีดที่มีสีหลากหลาย เจไดบางคนยังใช้สีแดงด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าทางนิกายมักหลีกเลี่ยงที่จะใช้สีที่เหมือนกับซิธ สีแดงยังถูกหลีกเลี่ยงเพราะว่ามันสื่อถึงเลือดและความรุนแรง หลังจากความขัดแย้งรูซานเจไดหันมาใช้คริสตัลอดีแกนมากขึ้นซึ่งมักเป็นสีฟ้าหรือสีเขียว สีอื่นๆ นั้นก็มีเช่นกันแต่น้อย กระบี่แสงสีดำก็มีเช่นกัน
           ในยุคสงครามกลางเมืองเจได สีดาบของเจไดมักจะแสดงถึงวิถีที่เจไดผู้นั้นเลือกเดิน ถึงแม้ว่าเจไดไม่จำเป็นต้องใช้สีดาบที่ระบุชั้นของเขา ดาบสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของเจไดกงสุล สีฟ้าคือเจไดผู้พิทักษ์ สีเหลืองคือเจไดเฝ้ายาม สำหรับความแข็งแกร่งของกระบี่แสงคริสตัลเหล่านี้ก็ให้ผลท่เหมือนกันหมด มีเพียงสีเท่านั้นที่แตกต่าง 
          หลังจากการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่จักรพรรดิพัลพาทีนได้รื้อถอนสถานที่ขุดหาคริสตัลจำนวนมาก เพื่อทำให้การหาคริสตัลยากขึ้น หลังจากที่นิกายเจไดใหม่ถือกำเนิดการค้นพบแหล่งคริสตัลและการใช้คริสตัลสังเคราะห์ก็ทำให้กระบี่แสงที่หลากสีกลับมาอีกครั้ง


۞สีของดาบเซเบอร์แบ่งตามสาย۞

   ۞ เขียว - สาย force เน้น force มากกว่าเชิงดาบ 
   ۞ ฟ้า - สาย Battle ลุยแหลก ทั้ง Force ทั้งเชิงดาบ พอๆกันไม่มีอะไรเด่นกว่า 
   ۞ แดง - Sith ใช้พลังด้นมืด 
   ۞ สีม่วง - ของวินดูเป็นพิเศษครับ Sword Master ในเชิงดาบเก่งที่สุดแล้ว(เหนือกว่าทุกคนใน Jedi Cousil)

ชนิดของดาบเซเบอร์ (Light Saber)

          กระบี่แสงสองใบมีด—เป็นกระบี่แสงที่สามารถปล่อยพลังงานออกมาได้ทั้งสองด้าน ใบมีดแต่ละใบสามารถทำงานได้แยกกันหรือพร้อมกัน กระบี่แสงชนิดนี้สามารถใช้กับแบบด้ามเดียวหรือสองด้ามเข้ามาต่อกัน อาวุธนี้มักอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่าฝ่ายตรงข้าม มันกลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ"กระบี่แสงซิธ"เพราะว่ามันถูกใช้โดยซิธ ในขณะที่เอกซาร์ คุนได้รับว่าเป็นคนแรกที่ใช้อาวุธชนิดนี้ ในโฮโลครอนเทดรีนกล่าวว่าเขาได้เรียนรู้เทคนิกดังกล่าวมาจากโฮโลครอนของซิธที่สร้างขึ้นโดยผู้ที่ถูกเนรเทศตั้งแต่สมัยร้อยปีแห่งความมืดมน


           ✖ กระบองแสง เป็นกระบี่แสงหายากที่ใช้คริสตัลและระบบพลังที่จะฉายพลังงานออกมามากถึง 3 เมตร กระบี่แสงขนาดใหญ่เหล่านี้มัใช้โดยผู้ที่มีร่างใหญ่ กอร์กผู้ที่เป็นเจไดมืดชาวกามอร์รีน กลายพันธุ์ใช้กระบี่แสงชนิดนี้ แส้แสง  
           แส้แสง—เป็นแบบที่น่าตื่นตาของกระบี่แสงที่มีเพียงผู้ใช้ที่ฝึกมาอย่างดีเท่านั้นที่จะใช้มันได้ มันอาจเป็นได้ทั้งแก่นแข็งหรือพลังงานล้วนๆ เช่นเดียวกับกระบี่แสงที่มันจะปล่อยพลังงานออกมา แต่ไม่เหมือนตรงที่มันยาวและยืดหยุ่น ผู้ใช้ได้แก่ ลูมิยา กิธานี ซิลริ เวียนนา ดโพว์ และคิท ฟิสโต
          กระบองแสงแฝด—เป็นรูปแบบหนึ่งของกระบี่แสงสองใบมีดเพียงแต่ว่าด้ามนั้นเป็นแบบกระบองแฝด มันยากที่จะควบคุมมากกว่ากระบี่แสงสองใบมีด กระบองแสงนี้จะทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในการทำมุมโจมตีที่คาดเดาได้ยาก อซาจจ์ เวนเทรสส์เป็นผุ้ที่ใช้อาวุธชนิดนี้บางครั้ง
         หลาวแสง—เป็นหลาวพลังที่ดัดแปลงด้วยการเพิ่มตัวกำเนิดของกระบี่แสงเข้าไป มันทำให้มีใบมีดพุ่งออกมาจากปลายหลาว มันอาจถูกใช้โดยใครก็ตามที่เคยใช้หลาวพลังมาก่อนและถูกใช้โดยองครักษ์มืดของจักรพรรดิที่ใช้มันได้อย่างเก่งกาจ
          คราดแสง—เป็นกระบี่แสงที่มีสองใบมีดพร้อมกับตัวกำเนิดพลังอันที่สองซึ่งจะยื่นออกมาจากด้ามหลักทำมุม 45 องศา นอกจากนี้มันยังเป็นกระบี่แสงที่ประหลาดที่สุดและหากยากที่สุด ด้ามจับยังโค้งอีกด้วย มีเจไดเพียงคนเดียวที่พบว่าใช้กระบี่แสงชนิดนี้คือโรบลิโอ ดาร์เต้
.........................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น