28 สิงหาคม 2556

Pirate Explorer Ferdinand Magellan นักสำรวจ เฟอร์ดินันด์ แมกเจลแลน

PIRATE World เฟอร์ดินันด์ แมกเจลแลน 
ฉายา ชายผู้เดินเรือรอบโลกเป็นคนแรก
ตำแหน่ง นักสำรวจ ( Explorer)
- โจรสลัด (PIRATE)
สัญชาติ โปรตุเกศ - สเปน (Portuguese Spain)
บิดา โรดดิโก้.ดิ.มากายาเนส (Rodrigo.de Magalhães)
มารดา อัลดา.ดิ.มาร์เคสต้า (Alda.de Mesquita)
เกิดเมื่อ ปี ค.ศ. 1480
- ที่เมืองซาโบรซา หรือโปร์ตู ประเทศโปรตุเกส
ช่วงปีทำการสำรวจ ปี ค.ศ. 1519-1522
ลูกเรือ เรือจำนวน 5 ลำ ลูกเรือประมาณ 270 คน
เสียชีวิตเมื่อ อายุ41 ปี 27เมษายน ค.ศ.1521
- เกาะมักตัน,ฟิลิปปินส์ (Mactan,Philippines)

          เฟอร์ดินันด์ แมกเจลแลน เค้าเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็มีเชื้อสายเป็นขุนนางชั้นสูง ทำให้เขาเป็นเด็กรับใช้ในวังของราชินีลีโอนอร์ ชายาของพระเจ้าจอห์นที่ 2 แห่งโปรตุเกส แมกเจลแลน แต่งงานกับ บรีทริซ บาร์โบซา มีบุตรสองคน  เมื่อเขาอายุได้ 25 ปี เขาถูกส่งไปที่อินเดียเพื่อแต่งตั้ง ฟรานซิสโก เดอ อัลไมดา เป็นผู้สำเร็จราชการชาวโปรตุเกส การเดินทางครั้งนี้ทำให้แมกเจลแลน มีประสบการณ์สงครามเป็นครั้งแรก เมื่อกษัตริย์ในพื้นที่นั้นซึ่งได้มอบเครื่องบรรณาการให้แก่ วาสโก ดา กามา แล้วก่อนหน้านั้นสามปี ปฏิเสธที่จะมอบเครื่องบรรณาการให้แก่อัลไมดา ส่งผลให้เกิดสงครามดีอูในปี ค.ศ.1509 หลังจากที่เฟอร์ดินันด์ แมกเจลแลน หนีสงครามครั้งนี้ทำให้เป็นที่เกลียดชังของอัลไมดา และอัลไมดาได้กล่าวหาว่าเขาทำการค้าที่ผิดกฎหมายกับพวกมัวร์ (Moors) ตามมาด้วยข้อกล่าวหาอื่น ๆ จนทำให้แมกเจลแลน ต้องออกจากราชการ  


           ปลายศตวรรษที่ 15 โปรตุเกสกับสเปนทำความร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ.1494 ที่แบ่งการครอบครองโลกระหว่างโปรตุเกสกับสเปน โดยโปรตุเกสทำการสำรวจและครอบครองซีกโลกตะวันออก สวนสเปนทำการสำรวจและครอบครองซีกโลกตะวันตก ทำให้กษัตริย์สเปนตัดสินใจส่งทีมสำรวจออกไปเพื่อค้นหาเส้นทางเดินเรือไปยัง ทวีปเอเชีย


        แมกเจลแลน เสนอแผนการที่จะค้นหาเส้นทางลัดไปยังทวีปเอเชียโดยอ้อมทางใต้ของโลกใหม่ (หรือทวีปอเมริกาใต้ในปัจจุบัน) ต่อกษัตริย์ชารลส์ที่หนึ่ง แห่งสเปน โดยเขาคาดการณ์ว่าเมื่อเดินทางอ้อมใต้โลกใหม่ไปแล้วเขาสามารถเดินทางไปถึง หมู่เกาะ เครื่องเทศได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลังจากที่ถูกปฏิเสธจากพระเจ้ามานูแอล กษัตริย์โปรตุเกส แผนการเดินทางของเขากลับได้รับความสนใจจากกษัตริย์สเปน เนื่องจากในขณะนั้นโปรตุเกสกำลังควบคุมเส้นทางเดินเรือไปยังเอเชียผ่านทาง ทวีปแอฟริกา สเปนจึงต้องการเส้นทางไปยังเอเชียของตนเองด้วยเช่นกัน และกษัตริย์ชารลส์ที่หนึ่ง ได้มอบเรือจำนวน 5 ลำ ให้อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา คือ ไตรนิดาด (Trinidad) ซาน แอนโทนิโอ (San Antonio) คอนเซปซิออน (Concepcion) วิคตอเรีย (Victoria) และ ซานติเอโก (Santiago) พร้อมลูกเรือ ให้กับเขา


           วันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.1519 แมกเจลแลน ออกเดินทางจากสเปน ผ่านไปจนวันที่ 13 ธันวาคม คณะเดินทางได้ทอดสมอใกล้กับเมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ในปัจจุบัน และได้มีการหาเสบียงอาหารมาเพิ่มเติม หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินเรือไปทางใต้ตามชายฝั่งทางทิศตะวันออกของอเมริกาใต้ มุ่งไปทางช่องแคบซึ่งแมกเจลแลน เชื่อว่าจะนำไปสู่หมู่เกาะเครื่องเทศ และเหยียบเมืองริโอ เดอ ลา พลาทา เมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ.1520   เส้นทางของแมกเจลแลน ตัดผ่านช่องแคบทางใต้ของอเมริกาใต้ที่ติดต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิกเรือซานติเอโกที่ถูกส่งไปตามชายฝั่งเพื่อสอดแนมเส้นทาง อับปางลงเพราะพายุ ลูกเรือทั้งหมดปลอดภัยและหยุดพักตามชายฝั่งก่อนที่จะออกเดินเรืออีกครั้ง
         เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ก็กองเรือก็ได้เดินทางมาถึง แหลมเวอร์จีนส์ และพวกเขาได้เจอเส้นทางเนื่องจากน้ำเป็นน้ำทะเลและเส้นทางลึกเข้าไปในแผ่น ดิน เรือทั้งสี่ลำเริ่มเดินทางด้วยความยากลำบากตลอดระยะ 600 ก.ม. เนื่องจากเรือแล่นผ่านเส้นทางนี้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันทางศาสนาเพื่อระลึกถึงนักบุญทั้งหมด ปัจจุบันเส้นทางนี้เรียกว่า “ช่องแคบแมกเจลแลน”


            การค้นหาเส้นทางผ่าน แผ่นดินใหญ่ และความหนาวเย็นของทะเลใกล้ขั้วโลกใต้ ทำให้แมกเจลแลน เสียเวลาจนถึงปลายปี ค.ศ.1520 กว่าจะผ่านช่องแคบแมกเจลแลน ออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกการที่เขาใช้เวลาข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกนานกว่าที่ประมาณ ไว้มากทำให้ปริมาณอาหารและน้ำจืดไม่เพียงพอ ในระหว่างนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียลูกเรือไปอีก 19 คน
           ในเดือนมีนาคม ค.ศ.1521 แมกเจลแลน เดินทางมาถึง หมู่เกาะซึ่งเป็นประเทศฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน ใช้เวลาข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมดกว่าสามเดือน เมื่อถึงฟิลิปปินส์ เขาได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างคน พื้นเมือง โดยวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1520 กองเรือสเปนได้รับการต้อนรับจากชาวพื้นเมืองอย่างดี แต่ในระหว่างนั้นกำลังมีสงครามอยู่กับเมืองลาปูลาปู (Lapu-Lapu City) แมกเจลแลนและลูกเรือจึงอาสาเข้าไปช่วยเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ จนถูกชาวมัคตานซึ่งเป็นชนพื้นเมืองสังหารในที่สุด 
............................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น