ฉายา โรบินฮู็ตแห่งออสเตรเลีย (Robin Hood of Australia)
-โจรป่าหนุ่ม(Juvenile Bushranger)
เกียรติยศ วีรบุรุษนิทานพื้นบ้าน(Folk Hero)
อาชีพพรานป่า(Bushranger)
สัญชาติ ไอริช-ออสเตรเลีย (Irish -Australia)
บิดา เรด จอห์น เคลลี(John "Red" Kelly)
มารดา เอลลีนเคลลี(Ellen Kelly)
พี่น้อง แดน(Dan Kelly) ,แอนนี (Annie) รวม 8 คน
เพื่อนสนิท อารอน(Aaron Sherritt) ,โจ เบิร์น(Joe Byrne) ,ทอม ลอย(Tom Lloyd) ,สเตฟ ฮาร์ท(Steve Hart)
เกิดเมื่อ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1854
-ที่เมืองเบเวริด-ออสเตรเลีย(Beveridge-Victoria ,Australia
เสียชีวิต อายุ 25 ปี - 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1880
-ที่เมืองเมลเบิร์น-ออสเตรเลีย(Melbourne-Victoria ,Australia)
เอ็ดเวิร์ด "เน็ด" เคลลี (Edward "Ned" Kelly) หรือที่รู้จักกันในชื่อ เน็ด เคลลี (Ned Kelly ) เป็นโจรชื่อดังชาวออสเตรเลีย และสำหรับคนบางกลุ่มได้ถือว่าเป็นวีรบุรุษผู้ลุกขึ้นต่อต้านอำนาจรัฐจากรัฐบาลอาณานิคมออสเตรเลียภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ หลังเกิดคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บ้านของเน็ด เน็ดจึงหลบหนีไปซ่อนตัวในป่า และต่อมารัฐก็ประกาศให้เน็ดและพรรคพวกของเขาอีก 3 คน เป็นกลุ่มบุคคลนอกกฎหมาย 2 ปีถัดมาคณะโจรของเน็ดก็ได้เผชิญหน้าอย่างรุนแรงกับตำรวจที่เมืองเกลนโรวัน โดยเน็ดและคณะได้สวมเกราะเหล็กและหมวกเหล็กที่พวกเขาทำขึ้นเองเป็นเครื่องป้องกันตัว ผลปรากฏว่ามีเน็ดเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตและถูกจับกุมตัวไว้ เขาถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอที่เรือนจำเก่าเมืองเมลเบิร์น
ภูมิหลังของเน็ด เคลลี สามารถศึกษาได้จากประวัติของจอห์น "เรด" เคลลี (John 'Red' Kelly) บิดาของเน็ด เป็นชาวไอริชโดยกำเนิด ซึ่งถูกทางการอังกฤษจับกุมด้วยด้วยสาเหตุบางอย่างที่ไม่อาจสืบทราบได้ในปัจจุบันแล้ว เนื่องจากเอกสารเกี่ยวกับคดีของเขาที่ประเทศไอร์แลนด์ได้สูญหายไป หลังจากถูกจับกุมตัวแล้ว จอห์น เคลลี ก็ถูกตัดสินลงโทษใช้แรงงาน 7 ปี และถูกเนรเทศมายังฟานไดเมนส์แลนด์ (Van Diemen's Land, ปัจจุบันคือรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย)
เขาเดินทางมาถึงที่นั้นเมื่อปี ค.ศ. 1843 กระทั่งในปี ค.ศ. 1848 จอห์น เคลลีได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ เขาจึงย้ายไปอยู่ที่รัฐวิกตอเรียและได้แต่งานกับเอลเลน ควินน์ (Ellen Quinn, ขณะนั้นอายุได้ 18 ปี) ลูกสาวของเจ้าของฟาร์ม และมีลูกด้วยกัน 8 คน ลูกคนแรกของพวกเขานั้นเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก
3 มิถุนายน ค.ศ. 1854 เน็ด เคลลี เกิด นับเป็นบุตรชายคนโตของจอห์นและเอลเลน เคลลี แต่นับเป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนทั้งหมด 8 คน เขาได้รับการทำพิธีศีลจุ่มจากบาทหลวงชาร์ลส โอ'เฮอา (Charles O'Hea) ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ลัทธิออกัสติเนียน ในวัยเด็ก เน็ดได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย และครั้งหนึ่งเขาได้ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเด็กคนหนึ่งชื่อ ริชาร์ด เชลตัน (Richard Shelton) ให้รอดจากการจมน้ำ เน็ดได้รับรางวัลตอบแทนจากบิดาของเด็กชายคนนั้นเป็นผ้าพันคอสีเขียว ซึ่งเขาได้พกผ้าผืนนั้นติดตัวไว้ตลอด
ครอบครัวเคลลีตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลายครั้งจากการขโมยวัวและม้า และต้องรับโทษใช้แรงงานหนัก 6 เดือน ส่งผลให้สุขภาพจอห์น เคลลี เสื่อมโทรมลงอย่างร้ายแรงและ เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่เมืองอเวเนล รัฐวิกตอเรีย (Avenel, Victoria) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1866 หลังจากพ้นโทษครั้งสุดท้ายไม่นาน ขณะนั้นเน็ด เคลลี มีอายุได้ 11 ปีแล้ว ในเวลานั้นครอบครัวเคลลีได้จับจองที่ดินและย้ายไปอยู่ที่เมืองเกรตา (Greta) ซึ่งปัจจุบันนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เคลลีคันทรี" ("Kelly Country")โดยรวมแล้ว สมาชิกครอบครัวเคลลีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดต่างๆ 18 ครั้ง ก่อนที่เน็ดจะถูกประกาศให้เป็นคนนอกกฎหมาย
ในปี ค.ศ. 1869 เน็ด เคลลี ในวัย 14 ปี ได้ถูกจับกุมจากเหตุทำร้ายหมูของชาวจีนคนหนึ่งชื่อ อาฟุก จีนอาฟุกได้กล่าวหาเขาว่าถูกเน็ดปล้นทรัพย์ ส่วนเน็ดก็ได้กล่าวว่าจีนอาฟุกมีเรื่องวิวาทกับแอนนี่ พี่สาวของเขา ผลปรากฏว่าเน็ดถูกขังคุก 10 วันก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัว นับตั้งแต่นั้นมาฝ่ายตำรวจก็เริ่มจับตามองเน็ดว่าเป็น "โจรป่าหนุ่ม" ("juvenile bushranger"
ตุลาคม ค.ศ. 1870 เน็ด เคลลีถูกจับอีกครั้งจากการทำร้าย พรานเหยี่ยว (hawker) ชื่อ เยเรเมียร์ แมคคอร์แมค (Jeremiah McCormack) และการส่งจดหมายหุ้มด้วยหนังอัณฑะลูกวัวไปยังภรรยาวัยสาวของแมคคอร์แมค ในครั้งนี้เน็ดถูกตัดสินโทษแต่ละคดีให้ใช้แรงงานหนัก 3 เดือน แต่ไม่นานนักก็ถูกจับอีกในข้อข้อหาขโมยม้า
กุมภาพันธ์ ค.ศ.1674 เน็ต เคลลี่ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระอีกครั้งในวัย 19 ปี เน็ตยังคงใช้ชีวิตอย่างคึกคนองไปวันๆและถูกจับอีกหลายครั้ง ตำนานเน็ด เคลลี จอมโจรเกราะเหล็ก
เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ อารอน เชอริต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของโจ เบิร์น ทรยศต่อความเป็นเพื่อน บอกที่ซ่อนของพวกเคลลี่ให้พวกตำรวจได้รู้ แต่ไม่นานพวกของเคลลี่ก็รู้ตัวคนทรยศไม่นาน อารอนก็ถูกโจ เบิร์น และแดน เคลลียิงเสียชีวิตที่บ้านของเขาเองเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1880 ตำรวจ 4 นายซึ่งทางการได้ส่งคุ้มครองอารอนโดยเปิดเผยในเวลานั้นได้ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนอนในบ้านของอารอนและไม่ออกไปสู้กับฆาตกรทั้งสองคน
27 มิถุนายน คณะโจรเคลลีได้เดินทางมาถึงเมืองเกลนโรวัน และได้กวาดต้อนตัวประกันประมาณ 70 คนไปรวมกันที่โรงแรมเกลนโรวันอินน์ พวกเขารู้ดีว่าตำรวจจะเดินทางมาที่นั้นด้วยรถไฟ จึงได้งัดรางรถไฟออกเพื่อให้ขบวนรถไฟของตำรวจตกรางสมาชิกคณะโจรต่างสวมใส่เสื้อเกราะที่พวกเขาทำขึ้นเอง เสื้อเกราะดังกล่าวทำจากเหล็กผาลไถที่ได้มาทั้งจากการขโมยและมีผู้มอบให้ แต่ละตัวนมีน้ำหนักประมาณ 96 ปอนด์ (ประมาณ 44 กิโลกรัม) มีหมวกเหล็กประกอบครบชุดทั้ง 4 ตัว กล่าวกันว่าหมวกเหล็กของโจ เบิร์นนั้นเป็นหมวกใบที่ดีที่สุด เพราะที่ช่องมองนั้นทำเป็น 2 ช่องเพื่อบังส่วนจมูกด้วย
ขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงแรงเกลนโรวัน ความพยายามของคณะโจรเคลลีที่จะถอดรางรถไฟก็ล้มเหลวลงจากการกระทำของโทมัส เคอร์นาว ครูคนหนึ่งซึ่งถูกจับเป็นตัวประกันและได้รับการปล่อยตัวจากคณะโจร เคอร์นาวได้พยายามพูดจูงใจให้เน็ดปล่อยตัวเขาจนสำเร็จ จากนั้นเขาจึงรีบหาทางบอกให้ฝ่ายตำรวจรู้ตัวโดยยืนโบกผ้าพันคอสีแดงของเขาให้ตำรวจรู้ว่ามีอันตราย ฝ่ายตำรวจจึงหยุดรถไฟก่อนที่รถไฟจะถึงจุดที่รางถูกถอดและกระจายกำลังปิดล้อมโรงแรมทันทีรุ่งเช้า
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน เน็ด เคลลีออกมาจากโรงแรมพร้อมกับสวมชุดเกราะเหล็ก เขาเดินตรงไปยังฝ่ายตำรวจและยิงปืนสู้กับตำรวจ กระสุนปืนฝ่ายตำรวจที่ยิงตอบโต้นั้นไม่เข้าในส่วนที่เน็ดสวมชุดเกราะป้องกันไว้ ทว่าช่วงขาท่อนล่างของเน็ดนั้นไม่มีเกราะป้องกัน เขาจึงถูกยิงที่ขาจนกระทั่งล้มลงเพราะหมดกำลังที่จะสู้ เน็ดจึงถูกฝ่ายตำรวจจับเป็นเพียงคนเดียว ส่วนสมาชิกคนอื่นในคณะโจรปรากฏว่าเสียชีวิตทั้งหมด
โจ เบิร์น(Joe Byrne)ถูกกระสุนปืนเข้าที่หว่างขาตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียเลือดมากจนกระทั่งเสียชีวิต
แดน เคลลี (Dan Kelly)และสเตฟ ฮาร์ท(Steve Hart)ทั้งสองคนน่าจะฆ่าตัวตายโดยถอดเกราะออกแล้วต่างคนต่างก็ยิงอีกคนหนึ่งเข้าที่หัวใจเพื่อจบชีวิตพร้อมกัน
ส่วนฝ่ายตำรวจนั้นบาดเจ็บเล็กน้อยเพียงคนเดียว คือ ผู้กำกับการตำรวจฟรานซิส แฮร์ (Francis Hare) เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยการปราบคณะโจรเคลลีครั้งนี้ เข้าถูกกระสุนปืนที่ข้อมือแล้วหนีออกจากพื้นที่ต่อสู้ จากความขลาดกลัวของเขาที่แสดงออกดังกล่าว ทำให้ต่อมาคณะกรรมาธิการแห่งรัฐวิกตอเรียมีมติปลดแฮร์ออกจากราชการตำรวจ
จุดจบของเน็ด เคลลี่ จอมโจรเกราะเหล็ก
หลังถูกจับกุมที่เกลนโรวัน เน็ด เคลลีถูกจำคุกและเข้ารับการพิจารณาคดี ศาลได้พิพากษาให้เน็ด เคลลีถูกประหารชีวิตโดยการแขวนคอจากคดีสังหารตำรวจ 3 นายที่ลำธารสตริงจีบาร์ค ในตอนท้ายของการ ผู้พิพากษาได้เอ่ยประโยคสุดท้ายตามธรรมเนียมศาลอังกฤษว่า "ขอพระเป็นเจ้าประทานความกรุณาแด่วิญญาณของท่านด้วย" เน็ดก็ได้ตอบโต้ว่า "ข้าพเจ้าจะไปยังศาลที่ยิ่งใหญ่กว่าศาลนี้ และข้าพเจ้าจะไปรอท่านอยู่ที่นั่น"
หลังจากนั้นเน็ด เคลลี ถูกแขวนคอที่เรือนจำเก่าเมืองเมลเบิร์นในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1880 โดยก่อนตายเน็ดกล่าวก่อนถูกแขวนคอว่า "นี่แหละชีวิต" ("Such is life") ในบันทึกก่อนการประหารชีวิตเน็ด เคลลีนั้น ประชาชนจากที่ต่างๆ ในออสเตรเลียได้พากันรวบรวมรายชื่ออุทธรณ์ต่อข้าหลวงผู้สำเร็จราชการอาณานิคมวิกตอเรียเพื่อขอเว้นโทษประหารแก่เน็ด เคลลี แต่ไม่เป็นผล จำนวนรายชื่อที่รวมได้ในครั้งนั้นไม่อาจทราบแน่นอนได้ แต่ประมาณการว่ามีมากกว่า 30,000 รายชื่อขึ้นไป
...........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น