Bruce Lee King of Jeet Kune Do
อาชีพ นักแสดง, อาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้, ผู้กำกับภาพยนตร์, นักเขียนบทภาพยนตร์
สัญชาติ จีน(Chinees)
ปรากฏ บรู๊ซ ลี เตะแรกลั่นโลก(Movie dvd Bruce Lee My Brother -2010)
บิดาลีฮอยฉวน(Lee Hoi-chuen)
มารดา เกรซ โฮ(Grace Ho)
คู่สมรสลินดา..เอมิลี่(Linda Emery)
บุตร/ธิดาแบรนดอนลี() ,แชนนอนลี()
กำเนิด 27.พฤศจิกายน ค.ศ. 1940 ปีมะโรง
-ไชน่าทาวน์,ซานฟรานซิส ,USA
เสียชีวิตอายุ..32.ปี -20 กรกฎาคม ค.ศ. 1973
- เกาลูนตง ,ฮ่องกง
บรู๊ซ ลี ( Bruce Lee) เป็นดาราจีนที่โด่งดังในระดับฮอลลีวู้ด ด้วยความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้แบบจีทคุนโด้ เขาสามารถพูดอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และยังเป็นแชมเปี้ยนเต้นชะชะช่า ในปี 1997 นิตยสารเอ็มไพร์ จัดเขาเป็นหนึ่งใน 100 ดารานำตลอดกาล บรู๊ซ ลี เป็นชื่อแรกของเค้าที่นางพยาบาลตั้งให้ เพราะมันเรียกง่ายและฟังดูเป็นฝรั่ง เหมาะกับซานฟรานซิสโก เมืองที่เขาถือกำเนิดขึ้นมา ส่วนชื่อจีนคือ ลี เสี่ยวหลง หรือ ลี จุน ฟาน ซึ่งมีความหมายว่า "เจ้ามังกรน้อย" บรู๊ซ ลี ไม่เพียงเกิดในปีมะโรงซึ่งถือเป็นปีมังกรตามความเชื่อของชาวจีนเท่านั้น แต่เขายังเกิดในช่วงเวลาของมังกรระหว่าง 06.00-08.00 น. ของเช้าวันนั้นด้วย
เมื่อเริ่มย่างเข้าวัยรุ่น บรู๊ซ ลี เข้าก๊วนกับพวกแก๊งเด็กเกเรแถวบ้าน ออกชกต่อยตะลุมบอนกับเด็กแก๊งอื่นไปทั่ว วันหนึ่งเขาโดนอัดจนเละเพราะไม่มีพรรคพวก ความเจ็บปวดและพ่ายแพ้เร้าให้เขาหาวิธีไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
ในปี 2496 เส้นทางจอมยุทธ์ของลีก็เริ่มต้นขึ้น เขา ฝากตัวเป็นศิษย์กับ อาจารย์ยิปมัน ปรมาจารย์มวยแห่งหยงชุน แรกเริ่มการศึกษาศิลปะป้องกันตัวทำให้ผยอง ไม่เกรงใคร เขาแต่งตัวแบบคนจีนโบราณไปไหนมาไหน หากใครสบตา เขาก็ไม่รอช้าที่จะท้าตีด้วยวิชามวยกังฟู
เมษายน ค.ศ. 1959 ที่เกาลูนแห่งเกาะฮ่องกงมีการประลองมวยจีน ระหว่างศิษย์สองสำนัก ฝ่ายหนึ่งคือ บรู๊ซ ลี ในวัย 19 ปี ส่วนอีกฝ่ายเป็นคนของสำนักหลงอี้ สถานที่คือ ดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง มีกติกาว่าต้องหยุดหมัดก่อนชกถูกลำตัวและหากผู้ใดหลุดออกนอกสนามถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ แต่เมื่อเริ่ม บรู๊ซ ลี กำลังถอดเสื้อออก คู่ต่อสู้ก็ชกเข้าที่ใบหน้าของบรู๊ช ลี ในทันที ทำให้ทุกอย่างเป็นอันยกเลิก กลายเป็นการวิวาทกันอย่างไม่มีกติกาไป แต่ก บรู๊ช ลี ก็ทั้งต่อยและเตะจนคู่ต่อสู้สลบ
ต่อมา ผู้ปกครองของคู่ประลองได้เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินการกับบรู๊ช ลี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำให้พ่อของบรู๊ซ ลี ต้องส่งเขาไปอยู่อเมริกา
พฤษภาคม ค.ศ. 1959 เขามาทำงานที่ร้านอาหารของญาติในซานฟรานซิสโกอยู่พักหนึ่ง แล้วย้ายไปซีแอตเทิล เป็นครูสอนเต้นรำ เมื่อเรียนจบได้ย้ายไปแคลิฟอร์เนีย ได้พบรักกับลินดา ลี แคดเวลล์ ภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันขณะที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียนี่เอง พร้อมทั้งตั้งสถาบันสอนศิลปะป้องกันตัว สอนมวยจีนไปด้วย
กรกฏาคม ค.ศ. 1964 ในวัย 24 ปี ได้ย้ายไปอยู่ที่โอ๊คแลนด์ อาชีพสอนกังฟู สร้างรายได้ให้ บรู๊ซถึง ชั่วโมงล่ะ 275 ดอลล่าร์ และเขียนหนังสือเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้จีนหลายเล่ม เขากับคู่หูเปิดรับนักเรียนกังฟูที่ไม่ใช่เอเชียอย่างเป็นทางการในเมืองโอ๊กแลนด์
ที่โอ๊คแลนด์นี่เองที่เป็นจุดหักเหแห่งวิถีมวยจีนของบรู๊ช ลี เพราะบรู๊ซ มีเหตุต้องประลองกับครูมวยจีนคนหนึ่งชื่อ หว่อง แจ๊คแมนหมัดกระเรียนขาว (มวยใต้ของมณฑลฮกเกี้ยน) ก่อนประลอง หว่อง แจ๊คแมน ได้พาลูกศิษย์หลายคนมาที่สำนักมวยของ บรู๊ช ลี เพื่อขู่ให้หงอแล้วเลิกสอนไปเสีย แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อ บรู๊ช ลี รับคำท้าของหว่องจริง ๆ มิหนำซ้ำยังเป็นฝ่ายเสนอให้สู้กันโดยไม่มีกติกาข้อห้ามใด ๆ ทั้งสิ้นด้วย
เมื่อการประลองเริ่มขึ้น บรู๊ช ลี เป็นฝ่ายเข้าประชิดตัวหว่อง แล้วออกหมัดตรงเป็นชุดใส่หว่องราวกับพายุ หว่องพยายามถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างจาก บรู๊ช ลี เอาไว้แต่ บรู๊ช ลี กลับตามติดแล้วปล่อยหมัดชกออกไปไม่หยุดหว่องทนการบุกของบรู๊ช ลีไม่ไหวถึงกับหันหลังหนีไม่คิดสู้อีก บรู๊ช ลี ต้องกระโจนไปกระชากตัวหว่อง ทุ่มลงนอนกับพื้นเงื้อหมัดหมายเผด็จศึก จนหว่องเอ่ยปากยอมแพ้ การประลองในครั้งนั้นจึงยุติลง แม้จะชนะโดยง่าย แต่ตัวเขากลับไม่พอใจที่ใช้เวลานานกว่า 30 วินาทีกแทนที่จะเป็น 6 วินาที
หลังการปะลอง บลู๊ซ ลีคิดค้นมวยใหม่ที่ทำให้พิชิตศัตรูได้เร็วกว่ามีชื่อว่า วิชา"มวยจี๊ทคุนโด" ชื่อเสียงของบรู๊ซลี เริ่มโด่งดังจนถึงขนาดที่ว่าโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวของญี่ปุ่นในซีแอตเทิล ต้องขอมาทดสอบฝีมือด้วย
บรู๊ซ ลี เริ่มเล่นภาพยนตร์ตั้งแต่ยังเป็นทารกหนึ่งขวบ จากนั้นได้เป็นดาราในหนังฮ่องกงมาตั้งแต่เด็กๆเรื่อยๆมา ภาพยนตร์เรื่องแรกของบรู๊ซ ลี ที่ได้ฉายโรงในอเมริกาคือ Xi lu xiang หรือ My Son, Ah Chung (1950) ตอนที่เขายังอายุสิบขวบ
สิ่งหนึ่งที่บรู๊ซทำให้ศิลปะการป้องกันต้วมีความน่าสนใจคือ การบวกทัศนคติแบบเต๋าในการฝึกด้วย ดังจะเห็นว่าเขามักสอดแทรกปรัชญาในภาพยนตร์ของเขาบ่อยๆ ผ่านบทสนทนาของตัวละครเช่น..
"เป้าหมายไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ต้องไปถึงเสมอ บ่อยครั้งที่ความหมายมันเพียงแค่สิ่งที่เราเล็งไว้ก็ได้"
"ก็เพราะคำว่าผม ไม่มีอยู่จริง การต่อสู้ที่ดีคือการเล่น เล่นแบบเอาจริง เมื่ออีกฝั่งรุก เราก็ถอย เมื่อเขาถอย เราก็รุก และเมื่อโอกาสเปิด ผมไม่ได้ลงมือจู่โจมมันจู่โจมเอง เทคนิคที่ดี หรือมีค่าแค่ไหน ล้วนกลับกลายเป็นแค่เชื้อร้ายทั้งนั้น ถ้าจิตใจไปยึดติดมัน"
บรู๊ซ ลี ตำนวนกังฟู ของโลก นักแสดงชาวเอเชียผู้บุกเบิกวงการฮอลลีวู้ด เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1973 ขณะอยู่กับดาราสาวชาวฮ่องกง ติงเพ่ยเจีย
วันที่ 3 กันยายนพ.ศ.1973 ศาลและคณะแพทย์ออกแถลงอย่างเป็นทางการว่า บรู๊ซ ลี หรือ หลีเสี่ยวหลง เสียชีวิตด้วยอาการสมองบวม เนื่องจากแพ้ยาแก้ปวดที่ติงเพ่ย ให้กินก่อนเขาจะหลับไป เป็นการตายโดยอุบัติเหตุไม่ใช่ฆาตกรรมด้วยวัยเพียง 32 ปี
สื่อฮ่องกงเปิดเผยรายงานของผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันรายหนึ่งถึงสาเหตุการเสีย ชีวิตของ บรู๊ซ ลี โดยตั้งข้อสันนิษฐานใหม่ว่ามีความเป็น ไปได้มากที่ สุดที่บรู๊ซจะเสียชีวิตด้วยโรคลมบ้าหมูอย่างเฉียบพลัน เนื่องมาจากการอดนอนและความเครียด ไม่ใช่มาจากอาการแพ้ยาตามรายงาน ชันสูตรศพในปี 1973
บรู๊ซ ลีเคยกล่าวไว้ในหนังสือที่บันทึกชีวประวัติ ของเขาว่า "การมีชีวิตอยู่นั้น ไม่สำคัญว่ายาวนานขนาดไหน
ความสำคัญอยู่ ที่ระหว่างที่มีชีวิตอยู่นั้น
ได้ทำสิ่งที่ตนปราถนาหรืออยากทำหรือไม่
สำหรับตนนั้นได้ทำสิ่งที่ใฝ่ฝันสำเร็จแล้ว ดังนั้น
ความตายจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป"
.........................
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น