LEGEND Mike Tyson มฤตยูดำไมค์ ไทสันหมัดโหดแห่งยุค

Author: Pirate Onepiece / ป้ายกำกับ:

Myth Mike Tyson The Deadly Black

http://legendtheworld.blogspot.com/2016/04/legend-mike-tyson.html
ฉายา มฤตยูดำ-ไม่โหดจริงเป็นไม่ได้(Deadly Black)
 - มนุษย์เหล็ก(Iron Mike)
- ไอ้หมัดดินระเบิด(เด็กระเบิด)

เกียรติประวัติ ชนะรวด 26 ไฟท์ชนะน็อค 14ไฟท์
อาชีพ นักมวยอาชีพ (Boxing)
รุ่น เฮฟวี่เวท
สถิติ ชก 58 -ชนะ 50 -น็อก 44 -แพ้  6
ส่วนสูง  5ฟุต 11นิ้ว - 178 ซม.
สัญชาติ อเมริกัน
บิดา จิมมี่แพททริก เคิร์กแพ(Jimmy Kirkpatrick)
มารดา ลอร์น่า เมล(Lorna Mae)
คู่สมรส   ค.ศ. 1988  โรบิน กิฟเว่นส์
-  ในปี ค.ศ. 1997 โมนิกา เทอร์เนอร์  
-  ในปี ค.ศ. 2009ลาคิชา สไปเซอร์
กำเนิด อายุ 49 ปี - 30 มิถุนายน 1966
-  บรูคลิ , นิวยอร์กซิตี้ , นิวยอร์ก , สหรัฐอเมริกา
เสียชีวิต ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน

          ไมค์ ไทสันหรือไมเคิ่ล เจอราร์ด ไทสัน (Mike Tyson) อดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สถาบันคนแรกของโลก เจ้าของสถิติเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียง 20 ปี 4 เดือน น็อกคู่ชกติดต่อกันถึง 19 ครั้งรวด ชนะน็อกยกแรกถึง 12 ครั้งด้วยกัน จนในที่สุด ไมค์ ไทสันก็ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 20 ปีด้วยตำแหน่งแชมค์โลก จนในเวลาต่อมา คู่ปรับของ ไมค์ ไทสัน นั้นมีมากมายนับไม่ถ้วนแต่คนที่เป็นคู่อริที่จะกล่าวได้ว่าอยู่สังเวียน เดียวกันไม่ได้เลยนั้นคงเป็น อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ ถือได้ว่าเป็นคู่อาฆาตตลอดการของเขาเลยก็ว่าได้เรื่องราวเรื่องราวแค้นต้องชำระเกิดขึ้นเมื่อปี 1996 เมื่อไทสันถูก โฮลีฟิลด์ ชนะน็อกอย่างหมดสภาพในสังเวียน ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความแค้น จนในปี 1997 ไมค์ ไทสัน ได้ลงสังเวียน กับคู่ปรับอย่าง โฮลีฟิลด์ อีกครั้งในครั้งนี้เขาใช้ลูกตุกติกในสังเวียนนั้นคือการไปกัดเข้าที่ใบหูของ โฮลีฟิลด์ ขาดจนถูกลงโทษโดยการยึดใบอนุญาตชกมวยโดยที่ไม่มีกำหนด 
http://legendtheworld.blogspot.com/2016/04/legend-mike-tyson.html......................






                ไมค์ ไทสัน มีฉายาว่า "Iron" สำหรับฉายาภาษาไทยแฟนมวยชาวไทยเรียกว่า "มฤตยูดำ" หรือ "ไอ้หัวบาก" และในช่วงที่กัดหูโฮลีฟิลด์ได้อีกฉายานึงว่า "จอมกัด" ทุกครั้งที่ขึ้นชก ไทสันจะสวมกางเกงมวยสีดำล้วน สวมรองเท้าสีดำที่หุ้มเพียงข้อเท้าโดยไม่สวมถุงเท้าจนเป็นเอกลักษณ์ ไทสันนั้นมีส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 10 นิ้ว (178 เซนติเมตร) ถือว่าตัวเล็กมากสำหรับรุ่นเฮฟวี่เวท แต่มีการโยกหัวเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างว่องไว และมีพลังกำปั้นที่หนักมาก ในปี ค.ศ. 2005 มีการจัดอันดับให้ ไมค์ ไทสัน เป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุดตลอดกาลของโลกในอันดับที่ 10 ด้วย ส่วนตัวนั้นไทสันชื่นชอบการเลี้ยงนกพิราบ โดยเลี้ยงเป็นฝูงใหญ่มาตั้งแต่เด็ก และถึงขนาดเคยเปิดห้องพักในโรงแรมห้าดาวให้แก่นกพิราบของตนมาแล้ว 




ประวัติเส้นทางชีวิตไม่ธรรมดา

             ไมค์ ไทสัน มีชื่อจริงว่า ไมเคิล จีราร์ด ไทสัน (Michael Gerard Tyson) เกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1966 ที่สลัมในบรูคลิน มหานครนิวยอร์ก  คุณภาพชีวิตของไทสันในวัยเด็กถือว่าเลวร้ายมาก ไทสันเป็นเด็กที่มีนิสัยเกเรมาก ชอบมีเรื่องชกต่อยกับเด็กคนอื่นละแวกบ้านและก่ออาชญากรรมทั่วไป จนกระทั่ง คัส ดี'อมาโต เทรนเนอร์มวยเชื้อสายอิตาเลียน ได้มาพบเข้าและฝึกสอนไทสันให้รู้จักกับมวยสากลอย่างแท้จริง ที่ชกบนเวทีและมีกติกาที่ชัดเจน ซึ่งไทสันได้รักและนับถือ ดี'อมาโตเสมือนกับพ่อของตนเองคนหนึ่งทีเดียว แชมเปี้ยนโลก  

มฤตยูดำไมค์ ไทสัน
           ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1986 ไมค์ ไทสัน ทำสถิติชนะรวด 26 ครั้ง ชนะน็อกถึง 24 ครั้ง ขึ้นชิงแชมป์โลกกับ เทรเวอร์ เบอร์บิค แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทของสภามวยโลก (WBC) ขึ้นสังเวียนมวยที่โรงแรมฮิลตัน ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา สำหรับเบอร์บิคแล้ว เขาเพิ่งได้แชมป์โลกเมื่อ 8 เดือนก่อนหน้านั้น ด้วยการชนะคะแนน พิงค์ลอน โธมัส แบบฉิวเฉียด ผลการชกไทสันเอาชนะน็อกเบอร์บิคได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ยกที่ 2 เท่านั้น และตลอดการชกเบอร์บิคเป็นฝ่ายถูกไทสันไล่ถลุงเพียงข้างเดียว ยิ่งโดยเฉพาะยกที่ 2 เบอร์บิคถูกไทสันชกล้มไปถึง 2 ครั้ง  ไมค์ ไทสัน จึงกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทคนใหม่ล่าสุด พร้อมกับทำสถิติเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี 4 เดือน (ซึ่งยังเป็นสถิติมาจนทุกวันนี้) ทำลายสถิติเดิมของ ฟลอยด์ แพ็ตเตอร์สัน ที่เคยทำไว้ในวัย 21 ปี 10 เดือน และที่น่าเหลือเชื่อคือทั้งคู่มีเทรนเนอร์คนเดียวกัน คือ คัส ดี'อมาโต  
             หลังจากนั้นทั่วทั้งโลกได้รู้จักกับ ไมค์ ไทสัน นักมวยผู้มีภาพของความป่าเถื่อน รุนแรง กักขฬระ ผ่านการโปรโมตของ ดอน คิง โปรโมเตอร์อันดับหนึ่งของโลก นับได้ว่าไทสันกลายเป็นนักมวยอันดับหนึ่งของโลกและเป็นนักมวยคู่บารมีของดอน คิง อย่างแท้จริง การชกทุกครั้งของไมค์ ไทสัน สามารถทำเงินให้กับดอน คิง ได้มหาศาล ไทสันผ่านการชกป้องกันตำแหน่งอีกหลายต่อหลายครั้ง 


        จนกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สถาบันคนแรกของโลก รวมทั้งการเอาชนะน็อก ไมเคิล สปิ๊งคส์ อดีตแชมป์เหรียญทองรุ่นเฮฟวี่เวทโอลิมปิคที่มอนทรีออล ที่หันมาชกมวยสากลอาชีพและทำสถิติไม่เคยแพ้ใคร และเมื่อถูกประกบคู่กับไทสัน สปิ๊งคส์ถูกมองว่าอาจเป็นคนแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้แก่ไมค์ ไทสัน ได้ แต่ผลการชกจริง ๆ ปรากฏว่า สปิ๊งคส์ เป็นฝ่ายแพ้น็อกไปเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น อย่างที่เรียกว่า "นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ"  
            เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 ไทสันขึ้นป้องกันตำแหน่งที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กับ เจมส์ "บัตเตอร์" ดักลาส นักมวยโนเนม  ไทสันพลาดท่าแพ้น็อกแก่ดักลาสอย่างไม่มีใครคาดคิดในยกที่ 10 แม้จะมีเสียงครหาว่ากรรมการบนเวทีนับเร็วกว่ากรรมการที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ตาม ภาพไทสันเมื่อครั้งเอาชนะน็อกยก 3 แฟรงค์ บรูโน ในปี ค.ศ. 1996 ทำให้ได้กลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง 

อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์
             หลังจากนั้น ชีวิตของไทสันก็ตกต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อถูกกล่าวหาจาก เดสิรี วอชิงตัน (Desiree Washington) นางงามผิวดำสหรัฐอเมริกาว่า ไทสันข่มขืนเธอ ไทสันปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง คดีนี้ถูกนำขึ้นสู่ศาล
       ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 ถูกตัดสินโทษจำคุก 6 ปี แต่เนื่องจากประพฤติตัวดี ไทสันจึงได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1995 หลังใช้ชีวิตในเรือนจำได้ 3 ปี ซึ่งในระหว่างนั้น ไทสันหันไปนับถือศาสนาอิสลามพร้อมกับใช้ชื่อใหม่ว่า “มาลิค อับดุล ลาซิช” (Malik Abdul Aziz) หรือ "ไทสัน อาลี" (Tyson Ali) ซึ่งไทสันอ้างว่าศาสนาอิสลามได้ทำให้จิตใจเขาบริสุทธิ์ขึ้นเหมือนดั่งเช่นกรณีหนีทหารของ มูฮัมหมัด อาลี ในอดีต  
           หลังจากออกจากคุกมา ไทสันขึ้นชกอุ่นเครื่องอีกไม่กี่ครั้ง ก็ได้ชิงแชมป์โลกของ WBC และเป็นฝ่ายชนะน็อก แฟรงค์ บรูโน นักมวยชาวอังกฤษ ไปเพียงยกที่ 3 ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1996 และคว้าแชมป์ของ WBA ด้วยการเอาชนะน็อกยกแรก บรู๊ซ เซลดอน ในเดือนกันยายน ปีเดียวกัน 


               จากนั้นไทสันถูกประกับให้พบกับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อดีตแชมป์โลก 3 สถาบันผู้เอาชนะเจมส์ "บัสเตอร์" ดักลาส ได้ ก่อนการหลายฝ่ายคาดว่าไทสันที่กำลังเหี้ยมหาญจะเอาชนะน็อกโฮลีฟิลด์ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่การชกกลายเป็นว่า ไทสันไม่สามารถอะไรโฮลีฟิลด์ได้เลย จนกระทั่งเป็นฝ่ายน็อกไปในยกที่ 11 ซึ่งถือเป็นความปราชัยในชีวิตการชกมวยเป็นครั้งที่ 2 ของไทสัน
         ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1997  ทั้งคู่ได้มีโอกาสล้างตากันอีกครั้ง ซึ่งการชกในครั้งนี้ ไทสันได้สร้างปรากฏการณ์ให้โลกตื่นตะลึงอีกครั้ง ด้วยการกัดเข้าที่ใบหูของโฮลีฟิลด์ในยกที่ 3 ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังคลุกวงในอยู่กัน โดยใบหูของโฮลีฟิลถึงกับเลือดออก จึงต้องยุติการชกไป และไทสันก็ถูกตัดสินให้แพ้ฟาลว์ ถูกปรับเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโดนยึดใบอนุญาตชกมวยด้วย แต่สำหรับค่าตัวของทั้งคู่ในขณะนั้นถือว่าเป็นค่าตัวที่สูงสุดในวงการกีฬาโลกเลยทีเดียว โดยไทสันได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโฮลีฟิลด์ได้ถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  

http://legendtheworld.blogspot.com/2016/04/legend-mike-tyson.html

         ในปี ค.ศ. 1999 ไทสันถูกจับอีกครั้ง เมื่อไปชกต่อยกับเด็กวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ 2 คน หลังเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน คราวนี้ไทสันติดคุกอยู่นาน 9 เดือน  เมื่อออกจากคุกมา ไมค์ ไทสัน ชกทำฟอร์มอยู่หลายครั้ง ก่อนจะขึ้นชกกับ เลนน็อกซ์ ลูอิส แชมป์โลกชาวอังกฤษผู้ที่มีฟอร์มการชกอยู่ในระดับสุดยอดในเวลานั้น ผลการชกไทสันเป็นฝ่ายแพ้น็อกไปอย่างบอบช้ำในยกที่ 8 เมื่อปี ค.ศ. 2002 ล้มละลาย  1 ปี ถัดมา ไทสัน มีปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง จนถูกฟ้องร้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย จากเดิมที่เคยมีเงินทองจากการชกมวยมากมายถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีคฤหาสน์หลังใหญ่ มีเสือโคร่งเบงกอลเผือกเป็นสัตว์เลี้ยง กลายเป็นบุคคลที่มีแต่หนี้สิน ทั้งนี้เป็นเพราะไทสันเป็นคนที่ใช้จ่ายเงินไม่เป็น อีกทั้งยังมีแต่พฤติกรรมที่ทะเลาะวิวาทกับผู้คนเรื่อยไป ประกอบกับได้เปลี่ยนผู้จัดการจาก ดอน คิง ในช่วงที่ตกต่ำเป็น แซลลี่ ฟิงเกอร์ ทำให้ไม่ได้รับค่าตัวมากมายเช่นเดิม 

http://legendtheworld.blogspot.com/2016/04/legend-mike-tyson.html

        ในปลายปี ค.ศ. 2004 ไทสันก็ถูกตำรวจจับอีกครั้งในข้อหาว่ามียาเสพย์ติดประเภทโคเคนไว้ในครอบ ครอง  ไมค์ ไทสัน ชกมวยครั้งสุดท้ายเพื่อหาทางปลดหนี้ แพ้น็อก เควิน แม็กไบรด์ นักมวยผิวขาว ในยกที่ 6 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2005 และไม่ได้กลับขึ้นชกมวยอีกเลยตราบจนทุกวันนี้
        ในช่วงปี ค.ศ. 2005  เป็นช่วงชีวิตตกต่ำสุดขีด ถึงกับมีข่าวลือว่าไทสันได้รับการชักชวนจากเจนนา เจมสัน ให้ร่วมกันแสดงหนังโป๊ ว่ากันว่า ไทสันมีศักยภาพที่น่าจะไปได้ดีในอาชีพนี้ เนื่องจากมีการอ้างถึงรายงานทางการแพทย์ในระหว่างถูกจองจำว่า ขนาดองคชาตของไทสันนั้นยาวถึง 14 นิ้ว อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำตัวของเจนนา เจมสัน และตัวไทสันเอง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้  แม้จะมีชีวิตที่ย่ำแย่ แต่ไทสันก็ยังมีข่าวคราวอาชญากรรมอยู่เรื่อย ๆ 
........................

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น