Legend Pirate Samuel Burgess โจรสลัดซามูเอล.เบอร์เจส

Author: Pirate Onepiece / ป้ายกำกับ:

Pirate World Samuel Burgess

ฉายาโจรสลัดขี้เมา เบอร์เจส
ตำแหน่งกัปตันโจรสลัด (Caption Pirate)
-สมาชิกกลุ่มโจรสลัดกัปตัน คิดส์ (Pirate Kidd)
สัญชาติ อเมริกา(America) 
บิดา ----
มารดา ----
เกิดที่รัฐนิวยอร์ค(New York)
ช่วงปีเป็นโจรสลัด ค.ศ.1690-1716
ลูกเรือ เรือมากาเร็ต(Margaret) ,เรือเนปจูน(Neptune)
มูลค่าสมบัติ10,100,000เหรีญสหรัฐ
เสียชีวิตอายุ..66.ปี. ค.ศ.1716
-เกาะทางตะวันตกของมาดากัสก้่า (Madagascar)

              ซามูเอล เบอร์เจส(Samuel Burgess)เป็นโจรสลัดที่เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่16-17 มีอาณาเขตการเดินเรืออยู่ในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดีย ช่วงปี 1689 เค้าเข้าร่วมกับกลุ่มของโจรสลัดกัปตัน คิดส์ (Captain William Kidd)ในการออกปล้นในแถบหมู่เกาะอินเดียตะวันตก  ช่วงหนึ่งของการเดินทางหลังจากกัปตันคิดส์ถูกชิงตำแหน่งโดยกัปตัน โคดส์(Edward Coates)ที่เข้าท้าทายและยึดอำนาจไปทำให้เบอร์เจสเริ่มมองหาลู่ทางใหม่ในอาชีพก่อนที่จะมีจุดจบก่อนวัยอันควร


             ในปี 1693   หลังจากที่เอ็ดเวิร์ด โคตส์ ขึ้นเป็นกัปตันเรือคนใหม่ทำให้เบอร์เจสตัดสินใจที่จะเดินทางไป นิวยอร์ค ประเทศอเมริกาเพื่อไปเป็นตัวกลางในการค้าขายบนฝั่ง  ในช่วงที่เรือของเบอร์เจสจอดอยู่ที่ลองไอแลนต์ โคดส์(Cp.Coates)ส่งคนไปหาผุ้ว่าการรัฐนิวยอร์คพันเอกเบนจามิน แฟล็ตเชอ(Benjamin Fletcher)เพื่อติดสินบนด้วยเงิน 800 ปอนต์สเตอร์ลิงให้ช่วยเหลือในด้านสิทธิพิเศษในการค้าและการเดินเรือ
         ในช่วงเดือนเมษายนปีเดียวกัน เบอร์เจสได้ใช้เงินจำนวนมากในการซื้อบ้านในนิวยอร์คและใช้เงินที่เหลือหมดไปกับธุรกิจค้าของเถื่อนที่ร่วมทุนกับเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เฟรเดอริ ฟิลลิป (Frederick Phillips)โดยเป็นคนกลางส่งมอบปืน หรือสินค้าทุกชนิดที่พวกโจรสลัดต้องการเพื่อแลกกับทองคำและทาส
             ในเดือน กันยายน ค.ศ.1699  เบอร์เจสพร้อมด้วยลูกเรือมาการ์เร็ต เดินทางไปยังเกาะเซนต์แมรี่ เพื่อรับหนังสืออภัยโทษสำหรับคดีความอันเกิดจากประพฤติตนเป็นโจรสลัด ของทั้งตัวเบอร์เจสเองและบรรดาลูกเรือเบอร์  เมื่อลูกเรือทั้งหมดได้รับการอภัยโทษเรียบร้อยแล้ว เบอเจสก็ได้ส่งตัวลูกเรือของเขาขึ้นเรือเพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของพวกเขา หลังจากนั้นเบอร์เจสก็ได้แล่นเรือไปยังเมืองเคปทาวน์ ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างทางก่อนถึงจุดหมายปลายทาง  เบอณ์เจส ได้พบเรือตรวจการของกัปตันเรือ กัปตันแมทธิว(Captain Matthew Lauza)และถูกเข้าจับกุมด้วยข้อหาให้การช่วยเหลือโจรสลัด ค้าขายและส่งมอบอาวุธให้ฝ่ายที่เป็นอริกับรัฐบาลอังกฏษ  
          นอกจากนี้ยังพบว่ามีลูกเรือบางคนเป็นโจรสลัดที่เคยเป็นลูกเรือเก่าของกัปตันคิดส์มาก่อน จึงถูกตั้งข้อหาหลายกะทงแล้วจึงทำการยึดเรือมากาเร็ต รวมทั้ง ทรัพย์สมบัติ และ ทาส ทั้งหมด ก่อนจะนำตัวเขาส่งไปยังเมืองบอมเบย์ ประเทศอินเดีย  และส่งตัวต่อไปยังลอนดอน ประเทศอังกฏษ
         ในปี ค.ศ 1701 จากคำเบิกความกับถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกเรือของกัปตันคิดส์ทำการอันเป็นโจรสลัดปล้นสะดมในทะเล โดยการให้ปากคำของกัปตัน โรเบริต คูริฟอร์ด เบอเจสได้รับการพิสูจน์ว่าเค้าได้กระทำความผิดนั้นจริงๆ แต่.....นั่นก็เป็นเรื่องเก่าและเค้าได้รับการอภัยโทษแล้ว....คำกล่าวหาจึงตกไปเหลือเพียงข้อหาให้การช่วยเหลือโจรสลัดซึ่งเป็นข้อหาเล็กน้อย เค้าจึงประกันตัวด้วยทรัพย์สินที่มี ในสุดท้าย เบอเจสถูกปล่อยตัวหลังจากนั้นเค้าเดินทางไปยัง ยังเซนต์ มาเรีย หมู่เกาะมาดากัสก้า และเริ่มธุรกิจค้าขายกับโจรสลัดอีกครั้ง


         ในปี 1703 เบอร์เจสได้รับการว่าจ้างให้เป็นลูกเรือ ฮันนาน(Hannah)เรือขนาดใหญ่ติด ปืนใหญ่ 26 กระบอก แต่ก็เกิดผิดใจกับกัปตันเรือจนคิดวางแผนการใหญ่ร่วมกับจอร์น เฮลซี่ (John Halsey) ในการบุกยึดเรือเรือ และปล้นเอาสินค้ามาเป็นของตน โดยแกล้งทำเป็นเรือล่มแล้วเข้าช่วยเหลือจนในที่สุดแผนการก็สำเร็จสามารถยึดเรือมาเป็นของตนได้แล้วจึงเปลี่ยนชื่อเรือใหม่เป็น เนปจูน(Neptune) 
        ในปี 1708 เบอร์เจสมียังคงอาศัยอยู่ในแถบบนหมู่เกาะมาดากัสการ์ โดยมีธุรกิจหลักเป็นการค้าทาสและค้าเหล้าเถื่อนที่รับมากจากพวกโจรสลัด แต่แล้วธุรกิจของเค้าก็เกิดสะดุด และเริ่มประสบปัญหามีการโต้เถียงบ่อยครั้งกับ หุ้นส่วนทางธุรกิจ เดวิด วิลเลียมส์ (David Williams)เกี่ยวกับส่วนแบ่งที่ได้รับ หลังจากนั้นไม่นานบ้านของเค้าก็ถูกวางเพลิง พยานกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเบอร์เจสนั้นเมาจนทำบ้านตัวเองใหม้แต่ในความเป็นจริงเค้าถูกวางเพลิงเพื่อล้างหนี้โชคดีที่เค้าขุดดินใต้พื้นบ้านหลบหนีออกมาได้และหนีไปอยู่ที่เกาะทางตะวันตกของมาดากัสก้า
            ช่วงวาระสุดท้าย ในปี 1716 เบอร์เจสป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ช่วงใกล้หมดลมหายมี โจรสลัดเคียงข้างเพียง 3คนคือ  Zachary, Ian and Nick Pro Douvom. กัปตันเฮนรี่ เป็นสักขีพยานต่อการตายของเค้า
................................

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น